พรรคฝ่ายค้าน 'เกาหลีใต้' เลือกผู้นำวัย 36 ปี สู้ศึกเลือกตั้ง

พรรคฝ่ายค้าน 'เกาหลีใต้' เลือกผู้นำวัย 36 ปี สู้ศึกเลือกตั้ง

การเมืองเกาหลีใต้เดือด! พรรคอนุรักษนิยมซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้าน เลือกผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพไฟแรง วัย 36 ปี นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ หวังท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีต่อจาก "มุน แจ-อิน" ในการเลือกตั้งต้นปีหน้า

พรรคพลังปวงชน ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษนิยมและแกนนำฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ประกาศวันนี้ (11 มิ.ย.) ว่า สมาชิกพรรคลงคะแนนเลือก นายลี จุน-ซ็อก วัย 36 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพด้านการศึกษา เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ และกลายเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยเกาหลีใต้

นายลีกล่าวสุนทรพจน์หลังได้รับตำแหน่งว่า ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพรรคคือ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี พร้อมให้คำมั่นว่าจะยุติการเมืองที่สร้างความแตกแยกและความรุนแรงที่เกาหลีใต้ต้องเผชิญมาเป็นเวลาหลายสิบปี

162341182571
- ลี จุน-ซ็อก หัวหน้าพรรคพลังปวงชนคนใหม่ วัย 36 ปี -

"ประชาชนอาจต้องการใครสักคนในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อเอาชนะรัฐบาลของประธานาธิบดีมุน แต่ผมจะไม่บรรลุเป้าหมายนั้น ด้วยการใส่ร้ายป้ายสีผู้สมัครรายอื่น ๆ" หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านไฟแรงเผย "ถ้าคู่แข่งอยู่ในจุดที่ต่ำ ผมก็จะดันตัวเองไปสู่จุดที่สูง ถ้าคู่แข่งอยู่ในจุดที่สูง ผมก็จะยิ่งผลักตัวเองไปสู่จุดที่สูงกว่าเดิม นี่คือแนวคิดที่ผมใช้"

ขณะที่ทีมงานของประธานาธิบดีมุน กล่าวว่า นายมุนได้แสดงความยินดีกับนายลีแล้ว ชัยชนะของเขาเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้งเรียกร้องให้เกิดความร่วมมือระหว่างกัน แม้ในบางครั้งจะต้องเผชิญหน้าทางการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนถึงการเลือกตั้งสมัยหน้า

นายลีจะลงสนามเลือกตั้งท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากประธานาธิบดีมุน ซึ่งมีกำหนดครบวาระในเดือน มี.ค. 2565

ผู้นำฝ่ายค้านเกาหลีใต้คนใหม่ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐ และทำงานด้านที่ปรึกษาในพรรคพลังปวงชนมาตั้งแต่ปี 2554 หลังจากที่เขาได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นการศึกษาในมือถือชื่อ "EduShare" แต่ยังไม่เคยเข้ารับตำแหน่งในพรรค

แม้จะเป็นรองคู่แข่งในการลงคะแนนภายในพรรคพลังปวงชน แต่นายลีคว้าชัยด้วยคะแนนเสียง 43.8% จากการลงคะแนนออนไลน์ของสมาชิกพรรค ขณะที่นางนา คย็อง-วอน วัย 57 ปี ซึ่งเป็นส.ส. 4 สมัยและผู้นำสภาล่าง ได้คะแนนจากสมาชิกพรรคไป 37.1%

ชัยชนะอย่างพลิกความคาดหมายของนายลีครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นกลางทางการเมืองและรุ่นหนุ่มสาวกลายเป็นฐานคะแนนเสียงสำคัญ ในช่วงที่ชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก เริ่มไม่พอใจบรรดาผู้นำการเมืองที่ไม่จริงใจและไร้ความสามารถ