BAM ไตรมาส 2/64 เล็งเก็บหนี้ 4.2 พันล้าน หนุนรายได้โต

BAM ไตรมาส 2/64 เล็งเก็บหนี้ 4.2 พันล้าน หนุนรายได้โต

BAM เผย อยู่ระหว่างเจรจาขาย NPAs ขนาดใหญ่ต่อเนื่อง คาดไตรมาส 2/64 เตรียมรับรู้เก็บหนี้อีก 4.2 พันล้าน พร้อมคงเป้าผลเรียกเก็บหนี้ปี 64 โตตามเป้าที่ 1.7 หมื่นล้าน

นายรฐนนท์ ฟูเกียรติ ผู้จัดการกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเดินหน้าสร้างการเติบโตใน 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) และทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) โดยธุรกิจ NPLs ตั้งเป้าปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 3,500 ราย เพื่อสร้างรายได้ที่เป็นกระแสเงินสดประจำในระยะยาว โดยในไตรมาส 1 ปี 2563 มีลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 414 ราย คิดเป็น 12% ของเป้าหมายทั้งหมด

นอกจากนี้ บริษัทได้อนุมัติราคาพิเศษให้แก่ลูกหนี้ที่มีความสามารถปิดหนี้ได้ในคราวเดียว ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้บริษัทสามารถตัดต้นทุนและรับรู้ผลกำไรได้ทันทีในแต่ละไตรมาส โดยคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตดีขึ้น

ส่วนธุรกิจ NPAs จะมุ่งขายทรัพย์สินในพอร์ตอย่างต่อเนื่อง ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีสินทรัพย์รอการขายมูลค่าระหว่าง 10-100 ล้านบาท จำนวน 24 รายการ และสินทรัพย์รอการขายมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 2 รายการ โดยบริษัทอยู่ระหว่างศึกษาดีลขายทรัพย์ขนาดใหญ่เพิ่มเติม จากสิ้นปี 2563 ที่มีการตัดขาย NPA ขนาดใหญ่มูลค่า 900 ล้านบาท แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้จำกัดเป็นแรงกดดันต่อดีลการซื้อขายทรัพย์ขนาดใหญ่

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายช่องทางการขายทรัพย์แก่นักลงทุนรายย่อยผ่านการจัดตั้งสโมสรนักลงทุน (Investor Club) เพราะมองว่าเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูง โดยนักลงทุนที่ลงทะเบียนผ่านช่องทางดังกล่าวจะได้สิทธิพิเศษให้การซื้อทรัพย์เป็นการตอบแทน เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมโอน หรือการให้สิทธิในการวางเงินมัดจำทรัพย์สินส่วนหนึ่งเพื่อนำไปพัฒนาและจำหน่ายได้ทันที เป็นต้น ปัจจุบันมีนักลงทุนเข้ามาร่วมลงทะเบียนแล้ว 250 ราย

สำหรับผลเรียกเก็บหนี้ในปี 2564 คงเป้าหมายที่ 1.7 หมื่นล้านบาท แม้ไตรมาส 1 ปี 2564 จะมีผลเรียกเก็บนี้เพียง 2.9 พันล้านบาท แต่ในไตรมาส 2 ปี 2564 จะเพิ่มอีก 4.2 พันล้านบาท แบ่งเป็น NPLs 2.4 พันล้านบาท และ NPAs 1.7 พันล้านบาท เพราะรับรู้ NPLs จำนวน 200 ล้านบาทที่เลื่อนมาจากไตรมาสแรก และการรับรู้ NPAs รายใหญ่ราว 450 ล้านบาท

พร้อมคงเป้าซื้อหนี้ปีนี้ 9 พันล้านบาท แม้ครึ่งปีแรกจะซื้อได้น้อย แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นการเข้าซื้อเพิ่มขึ้น โดยบริษัทไม่รีบซื้อเพราะปัจจุบันมีพอร์ตหนี้มูลค่าสูงถึง 2 แสนล้านบาท