นายกฯเร่ง "งาน1ปี” นับถอยหลังเลือกตั้ง
นายกฯเร่ง "งาน1ปี” นับถอยหลังเลือกตั้ง นายกฯสั่งโชว์ผลงานรัฐบาลก่อนโค้งสุดท้าย กมธ.วุฒิสภา ชงแก้รธน.โละทิ้ง “ไพรมารี่โหวต” จ่อเสนอรัฐบาล-กกต.
พล.อ.ประยุทธ์ สั่งเร่งสร้างผลงานรัฐบาลโค้งสุดท้าย กำชับปีนี้ 64 ต้องให้เห็นผลการแก้ปัญหาสำเร็จเป็นรูปธรรม ส่วนปีหน้า 65 ต้องทำแผนตามยุทธศาสตร์ชาติ เน้นใช้งบฯให้คุ้มค่า ห้ามมีทุจริต ด้าน 2 พรรคร่วม “ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์”เผยคาดเดายุบสภาไม่ได้ แต่ต้องเตรียมพร้อม “จุรินทร์” เผย ปชป.ทยอยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.สัปดาห์หน้า ขณะที่ ส.ว.เสนอประเด็นแก้รัฐธรรมนูญเสนอโละทิ้ง “ไพรมารี่โหวต”
ท่ามกลางกระแสข่าวการยุบสภาก่อนครบวาระ 4 ปีรัฐบาล และความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ที่เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 8 มิ.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมโดยเน้นย้ำให้รัฐบาลเร่งทำผลงานในปีนี้ให้เห็นเป็นรูปธรรม รวมทั้งเตรียมทำแผนในปีหน้า
โดยนายกฯ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท มีการอนุมัติไปแล้ว 984,000 ล้านบาท เบิกจ่ายไปแล้ว 73% คงเหลือเงินกู้ประมาณ 15,000 ล้านบาท จำเป็นต้องเก็บไว้เพื่อสำรองในเรื่องของการลดค่าน้ำ ค่าไฟให้ประชาชนต่อไป ตนเป็นห่วงเกษตรกร ชาวนาชาวไร่ ชาวสวน ทำอย่างไรถึงจะหลุดพ้นจากความยากจนได้โดยเร็วที่สุด ได้สั่งการและมอบนโยบายไปแล้วว่า เราจำเป็นต้องเร่งรัดการดำเนินการในหลายกิจกรรมในช่วง 1 ปีที่ยังเหลืออยู่ในรัฐบาลปัจจุบัน แล้วก็เตรียมพร้อมที่จะทำอะไรให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อจะส่งต่อไปวันข้างหน้ารัฐบาลต่อๆ ไป
ทั้งนี้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติของเราตามแผนงาน 1 ปี แผนงานระยะปานกลาง คือ 3 ปี และยุทธศาสตร์ 5 ปี นั่นคือความต่อเนื่องและสอดคล้อง ตนไม่ได้ขัดข้องแผนงานโครงการที่เสนอมา แต่เราจำเป็นต้องมีการตรวจสอบ คัดกรองโดยคณะอนุกรรมการ คณะกรรมการหลายระดับด้วยกัน ทั้งภาครัฐเอกชน มีส่วนร่วมในการพิจารณาแผนงานโครงการทั้งสิ้น ไม่ต้องการให้ไปเกิดประโยชน์อะไรกับใครทั้งสิ้น ประโยชน์ต้องตกอยู่กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ในแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดให้เกิดความทั่วถึงและเป็นธรรม
ภท.ยันเตรียมพร้อมเลือกตั้ง
ส่วนท่าทีจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรคภูมิใจไทย(ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ สั่งให้รัฐมนตรีเร่งทำงานภายใน 1 ปี โดยมีการโยงไปถึงกระแสข่าวยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ว่า คนที่มีอำนาจยุบสภาคือนายกฯ ซึ่งยังไม่มีการส่งสัญญาณใด ยังคงทำงานให้ดีที่สุด คนที่อยู่ในพรรคการเมือง และทำการเมือง ไม่เคยมีใครไม่เคยเจอเหตุการณ์ยุบสภา
ส่วนการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ภท.มีความพร้อมทุกวันพร้อมปฏิเสธว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าส.ส.ฝ่ายค้านจะย้ายมาอยู่กับพรรค เพราะพรรคอยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัว
ในส่วนของการอภิปรายพ.ร.ก.กู้เงินนั้น การอภิปรายถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. การทำหน้าที่ต้องแยกว่างานสภาเป็นหน้าที่ของส.ส. ไม่ใช่ว่าหัวหน้าพรรคจะสั่งการได้ทุกอย่าง และการอภิปรายแสดงความเห็นก็ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเราก็ทำหน้าที่ในส่วนของงานสภา คนที่เอาไปเชื่อมโยงคือคนที่ไม่เกี่ยวข้อง
“พรรคภูมิใจไทยไม่ได้อภิปรายอย่างราชสีห์แล้วโหวตอย่างหนู เพราะหนูนี่แหละที่ช่วยราชสีห์ ในนิทานอีสปไม่เคยบอกว่าราชสีห์ช่วยหนูมีแต่หนูที่ช่วยราชสีห์ และการโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 65 ที่ผ่านมาก็เรียบร้อยดี เพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งการอภิปรายเป็นการนำความคิดเห็น และข้อเสนอแนะของส.ส.ไปรับฟัง เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องก็ถือว่าแฟร์ดี”นายอนุทิน กล่าว
ปชป.จ่อเปิดตัวผู้สมัครเลือกตั้ง
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการยุบสภาว่า การยุบสภาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะไปตอบได้ว่าจะมีหรือไม่ หรือถ้าจะมีจะมีเมื่อไหร่
แต่สำหรับการเตรียมความพร้อมของปชป. พรรคมีความพร้อมและได้มีการเตรียมการมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ในแง่ของการเตรียมการรับสมัคร ผู้สมัคร ส.ส.คืบหน้าไปกว่า 90% จากนี้จะมีการทยอยเปิดตัวผู้สมัคร ที่พรรคพิจารณาเห็นว่าจะเป็นผู้สมัคร ส.ส. -ส.ก.ในสัปดาห์นี้ ส่วนสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดตัว ส.ส.และ ส.ก.รุ่นใหม่ของพรรคที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งในกรุงเทพมหานครอีกหนึ่งชุด
ส.ว.ชงตัดทิ้ง"ไพรมารี่โหวต"
วันเดียวกันในการประชุมวุฒิสภา มีวาระพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูยญวุฒิสภา ที่มีนายกล้านรงค์ จันทิก ส.ว. เป็นประธานกมธ.ฯ เรื่อง การสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.โดยกระบวนการเลือกตั้งขั้นต้น (ไพรมารี่โหวต) ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว. อภิปรายว่า เจตนารมณ์ของพรรคการเมืองที่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ และยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือ ต้องการล้มระบบเลือกตั้งขั้นต้น แต่ชี้แจงไม่ได้ เพราะเป็นหัวใจประชาธิปไตย จึงต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 และแก้ไขมาตรา 45 เพื่อถอดระบบเลือกตั้งขั้นต้นทิ้งไป หากสามารถแก้ไขได้ ระบบเลือกตั้งขั้นต้นที่คิดว่าเหมาะสมเพื่อแก้ปัญหาพรรคการเมืองจะถูกถอดทิ้งไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมวุฒิสภา ไม่ขัดข้องต่อการนำรายงานและข้อเสนอแนะรวมถึงข้อสังเกตของกมธ. และส.ว. นำเสนอไปยังรัฐบาลและ กกต. ต่อไป