ยังเลือกเก็งกำไรรายตัวระหว่างรอตัวเลขเงินเฟ้อและการประชุมเฟด

ยังเลือกเก็งกำไรรายตัวระหว่างรอตัวเลขเงินเฟ้อและการประชุมเฟด

ตลาดรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในช่วงพฤหัสบดี

เพื่อประเมินความเสี่ยงการเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการลดการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (Tapering) ซึ่งตลาดคาดเงินเฟ้อสหรัฐฯ พ.ค. จะอยู่ที่ 4.7% เร่งตัวจาก 4.2% และตลาดอาจตอบรับเป็นลบหากเงินเฟ้อเร่งขึ้นมากกว่าระดับดังกล่าว ทั้งนี้นักลงทุนประเมินคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) อาจเริ่มส่งสัญญาณล่วงหน้าถึงการลดการผ่อนคลายนโยบายการเงิน 15-16 มิ.ย. ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการจริงในช่วงไตรมาส 4/64 แม้เราคาดเฟดจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ความไม่แน่นอนของระยะเวลาในการเริ่มดำเนินการ ซึ่งมีความเสี่ยงจะเร็วกว่าที่ตลาดคาดเมื่อมองจากโมเมนตัมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้การเคลื่อนไหวของหุ้นขนาดใหญ่ในระยะสั้นอยู่ในกรอบจำกัด

ตัวเลขการเร่งฉีดวัคซีนยังเป็นปัจจัยบวกต่อการเก็งกำรหุ้นเปิดเมือง แม้ในระยะสั้นการฉีดวัคซีนในหลายพื้นที่อาจจะล่าช้าหรือมีการเลื่อน แต่ตัวเลขการปูพรมฉีดวัคซีนในวันที่ 4 มิ.ย.ที่ 416,847 ราย (ซึ่งดีกว่าค่าเฉลี่ยช่วงก่อนหน้าที่ 5-8 หมื่นโดส/วัน มาก)  แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการฉีดของไทยมีโอกาสเพิ่มสูงกว่า 4.6 แสนราย/วัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ต้องการสำหรับการฉีดให้ได้ตามเป้าที่ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564 การเร่งส่งมอบวัคซีน AstraZeneca ในช่วงกลาง-ปลายมิ.ย. และการอนุมัติสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์และจอห์นสันแอนด์จอห์น สันอีก 20 และ 5 ล้านโดส จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนความคืบหน้าของการได้รับวัคซีนแม้ที่สุดอาจไม่ถึงเป้า แต่เป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มการดำเนินธุรกิจและแรงเก็งกำไรต่อหุ้นกลุ่มเปิดเมือง อาทิ CPN, CRC, MAJOR, ZEN, M, BA, AAV, SF, AWC เป็นต้น

กลยุทธ์ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวในธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, IRPC 2) อาหารและเกษตร TVO, CPI, TU, CPF 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP และ KK เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM 5) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP 6) เก็งกำไรกลุ่มดิจิตัลทีวี BEC, WORK, MONO, JKN 7) หุ้นกลุ่มเหล็ก TSTH, GJS, AMC 8) กลุ่มโลจิติกส์ที่มีสัญญาณระยะสั้นเป็นบวก SONIC, NCL 9) หุ้นกลุ่มเรือ TTA, PSL, RCL

ภาพรวมกลยุทธ์ การผ่าน 1,606 จุด ทำให้มีโอกาสขึ้นทดสอบ 1,630-1,680 จุด อย่างไรก็ตามระยะสั้นมีโอกาสผันผวนก่อนการประชุมเฟด 15-16 มิ.ย. เน้นเก็งกำไรเชิงตั้งรับ เลือกเก็งกำไรรายตัว ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกและที่ยังปรับขึ้นน้อย // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร AWC*, TTA*, SUPER*, LANNA*

แนวรับ: 1,606 / แนวต้าน : 1,627 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

นายกฯเซ็นต์เพิ่ม 2 วัคซีน. นายกฯ ลงนามสั่งจองวัคซีน “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และ ไฟเซอร์แล้ว จำนวน 25 ล้านโดส พร้อมพ่วง ซิโนแวตอีก 8 ล้านโดส ยืนยันสิ้นปีได้ครบ 100 ล้านโดส

เคาท์ดาวน์เปิดน่านฟ้าภูเก็ต. รมต.ท่องเที่ยวประกาศเคาท์ดาวน์เปิดให้ผู้ฉีดวัคซีน 2 เข็มเข้าภูเก็ต คาด 3 เดือน นักท่องเที่ยวแตะ 1.29 แสนราย รายได้ 1.5 หมื่นลบ. AOT เผยสายการบินนอกขอบินเข้าภูเก็ตโดยตรง

SPA. ขานรับโมเดล “ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ชี้เป็นผลดีต่อธุรกิจ พร้อมเปิดให้บริการ 8 สาขา คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติไหลเข้า ชี้ผลงาน Q4/64 พีคจากปัจจัย high season หนุน

KBANK. จ่อขยายฟรีโฟลตให้ NVDR ถือมากกว่า 30-35% จากเดิม 25% ก่อนกลับเข้าคำนวณ MSCI ใหม่

ALL. ศึกษาออกเหรียญ DOGE เพื่อนำมาซื้อขายอสังหาฯ ชี้สภาพคล่องสูงและได้รับความนิยม พร้อมกางแผนตั้งเป้าขายทาวน์โฮม เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติในไทย เชื่อผลงานฟื้นตั้งแต่ Q2/64 เป็นต้นไป เผยแบ็กล็อกแน่น 9 พันลบ. พร้อมโอนปีนี้ 4-5 พันลบ.

 

ประเด็นติดตาม: -  7 มิ.ย.: TH Consumer Confidence เดือน พ.ค., China Trade Balance เดือน พ.ค /10 มิ.ย.: ECB Meeting, OPEC Monthly Reports, US CPI เดือน พ.ค.

 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)