ภาพลักษณ์สหรัฐแย่ลงก่อน'ไบเดน'ทัวร์ยุโรป

ภาพลักษณ์สหรัฐแย่ลงก่อน'ไบเดน'ทัวร์ยุโรป

ผลสำรวจความเห็นจัดทำโดยเยอรมัน มาร์แชลล์ ฟันด์ และเบอร์เทลสมานน์ ฟาวน์เดชัน ระบุว่า ชื่อเสียงที่ดีในฐานะประเทศมหาอำนาจโลกของสหรัฐย่ำแย่ลงเพราะการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ที่ทำให้ชาวอเมริกันเสียชีวิตเกือบ6แสนคน

ผลสำรวจครั้งนี้ ซึ่งจัดทำระหว่างวันที่ 29 มี.ค.และ13 เม.ย.โดยสุ่มสำรวจผู้ใหญ่จำนวน 1,000 คนใน 11 ประเทศคือ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ สเปน สวีเดน ตุรกี สหราชอาณาจักร และสหรัฐ บ่งชี้ว่า มีชาวเยอรมันเพียง 51% ที่เห็นว่าสหรัฐเป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือ ส่วนชาวฝรั่งเศส มองว่าสหรัฐเป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือในสัดส่วน 60% ชาวอังกฤษ 67% และชาวโปแลนด์มากที่สุดคือ 76% ส่วนชาวตุรกี น้อยกว่า1ใน4 สวนทางกับความเห็นของชาวอเมริกันส่วนใหญ่ที่มองว่าชาวยุโรปเป็นหุ้นส่วนที่น่าเชื่อถือ

ผลสำรวจนี้ จัดทำขึ้นก่อนหน้าที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมเดินทางเยือนยุโรปในสัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน ที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค.

“เจน ซากี้”โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนมีกำหนดเยือนอังกฤษ เบลเยียม และสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 10 - 16 มิ.ย. โดยจะเริ่มต้นด้วยการพบหารือกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ที่กรุงลอนดอน ในวันที่ 10 มิ.ย. จากนั้นเข้าร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกกลุ่มจี-7 ที่เขตคอร์นวอลล์ อังกฤษ ในวันที่ 11 มิ.ย.

นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐยังมีกำหนดการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบ็ธที่2 ที่พระราชวังวินด์ซอร์ ในวันที่ 13 มิ.ย. ก่อนที่จะเดินทางไปร่วมประชุมองค์การนาโต้ที่กรุงบรัสเซลล์ เบลเยียม ในวันที่ 14 มิ.ย.จากนั้น ประธานาธิบดีไบเดนจะร่วมประชุมสุดยอด สหรัฐ- สหภาพยุโรปวันที่ 15 มิ.ย. พร้อมทั้งพบหารือกับประธานาธิบดีเรจิป เทยิบ เออร์ดวน และเข้าเฝ้ากษัตริย์ฟิลิปเปแห่งเบลเยียมในวันเดียวกัน

ที่สุดท้ายของแผนการเยือนยุโรปของประธานาธิบดีไบเดนครั้งนี้ คือที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะมีการพบหารือกันเป็นครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีไบเดนกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ด้วย ซึ่งการหารือระหว่างผู้นำสหรัฐกับผู้นำรัสเซีย มีขึ้นขณะที่ความสัมพันธ์ทวิภาคีกำลังเกิดความตึงเครียด จากประเด็นการลอบโจมตีทางไซเบอร์ สิทธิมนุษยชน และการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ แต่ทั้งไบเดนและปูติน ต่างแสดงความหวังว่าจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีจากการประชุมทวิภาคีร่วมกันครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีไบเดนเคยกล่าวหาโดยอ้างข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐว่า รัสเซียเเทรกเเซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปีที่แล้ว และรัฐบาลอเมริกันเคยกล่าวว่ารัฐบาลรัสเซียอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ “โซลาร์วินด์ส” ที่ระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรอเมริกัน 9 เเห่งถูกเเทรกซึมโดยรัสเซีย

นอกจากนี้ ไบเดน ยังเคยสร้างความขุ่นเคืองให้ปูติน ด้วยการกล่าวว่าเขาเชื่อว่าผู้นำรัสเซียเป็น “ฆาตกร” คำพูดดังกล่าวทำให้ปูติน ตอบโต้ด้วยการเอ่ยถึงประวัติศาสตร์ที่ชาวพื้นเมืองอเมริกันและทาสในสหรัฐถูกปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยม

ด้านโฆษกทำเนียบขาว บอกว่า การเยือนยุโรปครั้งนี้จะเน้นย้ำถึงภารกิจสำคัญของสหรัฐในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก การทำงานใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรในยุโรปเพื่อแก้ปัญหาท้าทายต่าง ๆ และรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐเอาไว้

เมื่อวันเสาร์(5มิ.ย.) หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ของสหรัฐ ตีพิมพ์บทความแสดงความคิดเห็นของประธานาธิบดีไบเดน ซึ่งรับปากว่าจะผนึกกำลังกับพันธมิตรทางประชาธิปไตยเพื่อรับมือวิกฤติและภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากรัสเซียและจีน โดยประธานาธิบดีไบเดน ระบุว่า “เรายืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวเพื่อรับมือความท้าทายจากรัสเซียต่อความมั่นคงของยุโรป ซึ่งเริ่มต้นมาจากการแสดงความก้าวร้าวต่อยูเครน” พร้อมยืนยันว่าการปกป้องคุณค่าด้านประชาธิปไตยเป็นสิ่งเดียวกับการรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐ

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐ ที่เป็นประเด็นสำคัญทำให้ภาพลักษณ์ความเป็นประเทศมหาอำนาจของสหรัฐย่ำแย่ลงในเวทีโลกนั้น Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุด ที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุเมื่อวันศุกร์ (4 มิ.ย.)ว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน 34,176,498 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 611,672 ราย

ขณะนี้สหรัฐ ติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นรัฐที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดในประเทศ (3,793,142) รองลงมาคือรัฐเท็กซัส (2,960,858), รัฐฟลอริดา (2,329,867) และรัฐนิวยอร์ก (2,156,270)