ตลาด'หุ้นกู้' คึกคัก ดันยอดทั้งปีนี้แตะ7.5แสนล้าน

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือThaiBMA เปิดเผยว่าบรรยากาศการออกหุ้นกู้ในตลาดแรกช่วงนี้ ตลาดเริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากสถานการณ์การปรับขึ้นของบอนด์ยิลด์ตามความกังวลแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐขาขึ้นเริ่มนิ่งขึ้น และต้นทุนของผู้ออกหุ้นกู้เครดิตเรทติ้งที่ดี ยังมีต้นทุนไม่แตกต่างจากปีก่อน ประกอบกับความต้องการของผู้ลงทุนในตลาดหุ้นกู้ยังมีอยู่มาก ด้วยผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก

“บริษัทที่ออกหุ้นกู้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเข้าซื้อหมดเกลี้ยง  เพราะผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก ทำให้บรรยากาศการลงทุนในหุ้นกู้ช่วงนี้คึกคัก”

 ทั้งนี้ในเดือนมิ.ย.นี้ยังมีแผนการออกหุ้นกู้ของบริษัทขนาดใหญ่ 2 ราย ได้แก่  บริษัท ซีพี ออลล์ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รวมกันไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ค.อยู่ที่ 110,000 ล้านบาท เดือนเม.ย. อยู่ที่ 93,000 ล้านบาทและเดือนมี.ค. อยู่ที่ 78,000 ล้านบาท

สำหรับในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.2564) บริษัทเอกชนออกหุ้นกู้แล้ว 380,779 ล้านบาท มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 138,166 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57%   โดยยังมีแนวโน้มออกเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังด้วย เนื่องจากยังมีหุ้นกู้ครบกำหนดไม่ต่ำกว่า 400,000 ล้านบาท  โดยคาดว่าทั้งปีนี้บริษัทเอกชนจะออกหุ้นกู้ไม่ต่ำกว่า750,000 ล้านบาท

         

นางสาวอริยา กล่าวว่า   ด้านตลาดหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับลงทุน หรือไฮยิลด์บอนด์ นอกจากหุ้นกู้การบินไทย ที่อยู่ในแผนฟื้นฟูแล้ว ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้อื่นๆในตลาด เพราะในปีนี้บริษัทส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบโควิด-19 โดยตรง และไม่ได้ความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ เพียงแค่ได้รับผลกระทบการฟื้นของเศรษฐกิจที่ล่าช้าออก ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่สามารถเจรจากับสถาบันการเงิน หรือเจ้าหนี้ เพื่อขอยืดระยะเวลาชำระและเปลี่ยนวันครบกำหนดชำระหนี้หุ้นกู้ออกไปอีกเฉลี่ยที่  6 เดือนถึง1 ปีหรือขอชำระหนี้เพียง 10-20%ก่อน ส่วนที่เหลือขอยืดชำระหนี้ออกไป เพื่อรอเศรษฐกิจฟื้น มีกระแสเงินสดกลับมามากขึ้นก็สามารถนำมาชำระหนี้หุ้นกู้ต่อได้

นอกจากนี้ สำหรับพ.ร.ก.กู้เงิน 500,000 ล้านบาท ที่จะมีรัฐบาลเตรียมการออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมนั้น  ประเมินว่า จะไม่ส่งผลกระทบกับบอนด์ยิลด์ในตลาด เพราะรัฐบาลมีช่องทางและวิธีการในการกู้เงินหลากหลายซึ่งบริหารจัดการได้ ขณะที่สิ้นพ.ค.ต่างชาติซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทย 30,678 ล้านบาท