พาณิชย์ต่อลมหายใจผู้ประกอบจัดกิจกรรมจับคู้กู้เงิน

พาณิชย์ต่อลมหายใจผู้ประกอบจัดกิจกรรมจับคู้กู้เงิน

" จุรินทร์” เปิดโครงการจับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับร้านอาหาร ต่อสายป่านให้ร้านอาหารทั่วประเทศ "จัดแมตช์ชิ่งเงินกู้" ระหว่าง 5 สถาบันการเงินกับร้านอาหาร เริ่มวันนี้ ถึง 20มิ.ย.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการ“จับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับร้านอาหาร” ว่า   โครงการนี้มีวัตถุประสงค์ที่ต้องการช่วยให้ร้านอาหารสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ หรือเข้าถึงสถาบันการเงินโดยมีดอกเบี้ยราคาพิเศษและปลอดหลักทรัพย์ในบางกรณี และเงื่อนไขผ่อนปรนอื่นๆ  โดยเป็นสินเชื่อฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด -19 ซึ่งรัฐบาลวงเงินให้สถาบันการเงินในการปล่อยกู้ให้ภาคธุรกิจบริการรวมทั้งเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี ซึ่งวันนี้ได้เชิญสถาบันการเงิน 5 แห่ง มาทำหน้าที่ปล่อยกู้โดยเฉพาะ ประกอบด้วย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME D Bank) ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน

162305454081

ส่วนร้านอาหารประสานงานผ่าน 7 สมาคม 1.สมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู๊ด 2.สมาคมภัตตาคารไทย 3.สมาคมร้านอาหารและธุรกิจท่องเที่ยวรายย่อย 4.สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร 5.สมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหาร 6.สมาคมเชียงใหม่ภัตตาคารร้านอาหารและบันเทิง และ7.สมาคมร้านอาหารไทยจังหวัดกระบี่ รวมทั้งกลุ่มร้านอาหารอื่นๆทั่วทั้งประเทศโดยร้านอาหารทั่วทั้งประเทศที่อยู่ในระบบทะเบียน มีทั้งสิ้นประมาณ 120,000 รายโดยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประมาณ 16,000 ราย ที่เหลือจดทะเบียนทำธุรกิจในฐานะบุคคลธรรมดา โดย 120,000 รายจะสามารถเข้ามาร่วมโครงการเจรจากับสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่งได้ทั้งในส่วนกลางส่วนภูมิภาค

“วันนี้ถือว่าเป็นการต่อสายป่านให้กับร้านอาหารภาค 2  ที่ส่วนหนึ่งอยากให้ภาครัฐเข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือเรื่องเงินทุนหรือผ่อนปรนภาระหนี้สินที่มีอยู่ รวมทั้งหาแหล่งเงินกู้ โครงการให้ร้านอาหาร โดยโครงการนี้จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ วันที่ 20 มิ.ย. 2564

 โดยก่อนหน้านี้ได้มีการจัดอบรมโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความรู้กับสถาบันการเงินร่วมกับร้านอาหารที่สนใจใช้บริการสถาบันการเงินในการเตรียมตัวก่อนดำเนินการกู้เงินในวันนี้ โดยมีผู้เข้าชมกว่า 6,000 คนและมีการแชร์ออกไปอีกเป็นจำนวนมากไปแล้ว