กฟก.สั่งชะลอจ่ายเงินโครงการ ”เลี้ยงโคกระบือ” เหตุโรคลัมปีสกินระบาด หวั่นเกษตรกรสร้างหนี้เพิ่ม

กฟก.สั่งชะลอจ่ายเงินโครงการ ”เลี้ยงโคกระบือ” เหตุโรคลัมปีสกินระบาด หวั่นเกษตรกรสร้างหนี้เพิ่ม

กฟก.สั่งชะลอจ่ายเงินโครงการ”เลี้ยงโคกระบือ” เหตุโรคลัมปีสกินระบาด หวั่นเกษตรกรสร้างหนี้เพิ่ม

กฟก.ชะลอจ่ายเงินฟื้นฟูอาชีพโครงการเลี้ยงโคกระบือ หลังเจอปัญหาโรคลัมปีสกินระบาดหนัก หวั่นเกษตรกรเจอหนี้ซ้ำ “สมยศ”ยันแค่ชะลอไปต่อได้หลังคลายวิกฤติ ย้ำหากปรับเปลี่ยนโครงการใหม่ก็สามารถทำได้ในวงเงินอนุมัติเดิม


ผลจากการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินหลายพื้นที่ ส่งผลให้โคกระบือล้มตายเป็นจำนวนมาก จนสร้างความหวั่นวิตกให้กับเกษตรกรเลี้ยงโคกระบืออย่างมาก โดยเฉพาะเกษตรกรสมาชิกสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร(กฟก.) ที่ได้รับอนุมัติโครงการเลี้ยงโคกระบือเพื่อการฟื้นฟูอาชีพไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้


“ถ้ามันพ้นสถานการณ์นี้ไปแล้วก็สามารถเบิกจ่ายเงินได้ตามปกติ เพราะเราเป็นห่วงว่าหากพี่น้องเกษตรกรไปซื้อโคที่ติดโรคมาเลี้ยง หากโคที่ซื้อมาติดโรคตาย เขาก็จะก่อหนี้เพิ่มทันที เราจึงขอดูสถานการณ์นี้ไปก่อน เงินก็ยังอยู่ไม่ได้หายไปไหน เพราะได้รับอนุมัติไปแล้ว”

162296214533


นายสมยศ ภิราญคำ รองเลขาธิการรักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรหรือกฟก.กล่าวในรายการ”กฟก.ร่วมคิด ชีวิตเกษตรกรมั่นคง”ทางเนชั่น ทีวี ช่อง22 เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา โดยย้ำว่าหากเกษตรกรรายใดอยากไปต่อไม่รอดูสถานการณ์ก็อาจปรับเปลี่ยนโครงการไปทำอย่างอื่นแทนได้ ภายใต้วงเงินอนุมัติเดิมก็สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องเสนอโครงการขึ้นมาใหม่ให้คณะกรรมการบริหารฯ(บอร์ดบริหาร)พิจารณาอนุมัติอีกครั้ง


“ถ้ายังทำไม่ได้ติดเงื่อนไขโน้นนี่นั่นก็สามารถเปลี่ยนแปลงโครงการใหม่ได้แทนที่จะเอาเงิน 3-4 แสนไปเลี้ยงโคก็เอาไปทำอย่างอื่นได้ไม่มีปัญหา ก็ทำโครงการเข้ามา โดยไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่แล้ว คนกลุ่มเดิม กิจกรรมเดิมเลี้ยงโคอาจจะไปไม่ไหวก็ไปเลี้ยงอย่างอื่นหรือทำอย่างอื่นก็ได้ แต่ต้องทำโครงการใหม่เข้ามาเพื่อพิจารณาขออนุมัติก่อน”นายสมยศกล่าวย้ำ


ขณะที่ นายประยงค์ อัฒจักร ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรกล่าวเสริมว่าโรคลัมปีสกินระบาดมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เพิ่มจะมารุนแรงเมื่อไม่นานมานี้ ลักษณะของโรคเป็นตุ่มที่ผิวหนังโคเหมือนคนเป็นอีสุกอีใส ซึ่งมีการแพร่ระบาดในหลายจังหวัดขณะนี้ ทางสำนักงานฯได้มีหนังสือไปยังสำนักงานสาขาจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวว่าขอให้ชะลอจ่ายเงินโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงโคกระบือออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย


“ถ้าเป็นวัวขนาดเล็กอาจถึงชั้นเสียชีวิต โครงการกลัวจะไปได้โคติดโรคมา เราก็เลยมีหนังสือไปยังสำนักงานสาขาจังหวัดว่ากรณีที่มีโครงการเลี้ยงเกี่ยวกับโคกระบือขอให้ชะลอออกไปก่อน ส่วนกิจกรรมอื่นท่านสามารถทำไปก่อนได้เลย เช่นการทำคอก การปลูกหญ้าเป็นอาหารโคเพียงแต่ชะลอการซื้อโคกระบือไปก่อน เพื่อป้องกันมีปํญหาภายหลัง แต่หากไม่ดีขึ้นถ้าพี่น้องอยากเปลี่ยนโครงการไปทำอย่างอื่นก็ทำหนังสือขอเปลี่ยนแปลงโครงการมาได้”ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรย้ำทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาการประชุมของคณะกรรมการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร(บอร์ดกฟก.)ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานและดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธานนั้นได้มีการอนุมัติโครงการฟื้นฟูอาชีพไปแล้วเกือบสองร้อยโครงการ รวมเม็ดเงินเกือบสองร้อยล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยโอนเงินไปตามสำนักงานสาขาในพื้นที่ที่มีโครงการฯได้รับการอนุมัติ โดยกฟก.ตั้งเป้าจะทยอยโอนเงินค้างจ่ายให้หมดจำนวน 304 ล้านบาทที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลมาแล้ว ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2564 นี้


สำหรับ“โรคลัมปี สกิน” มีสาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส Lumpy skin disease virus เป็นโรคที่เกิดเฉพาะในโค กระบือ ไม่เป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน อัตราการป่วยมากกว่า 5% โดยเชื้อไวรัสชนิดนี้ก่อโรคตามอวัยวะที่มีเซลล์เยื่อบุ พบตุ่มเนื้อบนผิวหนังและเยื่อเมือกทั่วร่างกาย ซึ่งต่อมาจะตกสะเก็ดและเป็นแผลหลุม สัตว์อาจมีไข้และหายใจลำบากร่วมด้วย โดยโรคนี้มีแมลงดูดเลือดเช่น เห็บ แมลงวันดูดเลือด และยุงเป็นพาหะแพร่กระจายเชื้อ