บลจ.กรุงศรี ลุย 'หุ้นจีน' 5เมกะเทรนด์ รับผลตอบแทนโตแกร่งระยะกลาง-ยาว

บลจ.กรุงศรี ลุย 'หุ้นจีน' 5เมกะเทรนด์ รับผลตอบแทนโตแกร่งระยะกลาง-ยาว

บลจ.กรุงศรี เผย ตลาดหุ้นจีนน่าสนใจลงทุนระยะกลาง-ยาว ปัจจุบันมีพี/อี 15 เท่า ถูกกว่าหุ้นทั่วโลก เตรียมเปิดขายกองทุน "กรุงศรีไชน่าเมกะเทรนด์" มูลค่า แสนล้าน 7-15 มิย.นี้ 

นางสาวพรชนก รัตนรถจิกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.กรุงศรียังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตลาดหุ้นจีนในระยะกลางถึงยาว แม้ตั้งแต่ต้นปีมานี้ ตลาดดหุ้นจีนปรับลดลงมาค่อนข้างมากและพักฐานมานาน 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ ด้วยปัจจัยกดดันจากความกังวล บอนด์ยิลด์สหรัฐปรับขึ้น การดำเนินนโยบายการเงินเข้มข้นขึ้น และนโยบายป้องกันการผูกขาด      

ทั้งนี้ปัจจัยความกังวลดังกล่าว รัฐบาลจีนสามารถบริหารจัดการได้ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจจีนเติบโตในอนาคตอย่างแข็งแกร่งตามแผนเป้าหมายสร้างเติบโตระยะ5 ปี อีกทั้งปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นจีนระยะข้างหน้า จะพบว่า ในช่วงที่ตลาดปรับฐานลงมานั้น ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในจีนยังขยายตัวได้ เชื่อว่าหลังจากนี้ราคาหุ้นจะเริ่มสะท้อนปัจจัยพื้นฐานมากขึ้นและมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นตาม

สำหรับตอนนี้ที่ราคาหุ้นจีน ปรับลดลงมาค่อนข้างมาก ปัจจุบันP/E ที่ระดับ15เท่า มีความน่าสนใจ ด้วยราคาหุ้นถูกกว่าหุ้นทั่วโลก และด้วยปัจจัยพื้นฐานใน5 เมกะเทรนด์ ได้แก่ 1.การบริโภคยุคใหม่ 2.ความก้าวหน้าเทคโนโลยีใหม่ 3.การพัฒนาของอุตสากรรมเฮลธ์แคร์ 4.พลังงานใหม่หรือพลังงานสะอาด และ 5.รถยนต์ไฟฟ้า ยังเติบโต และสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะกลางถึงยาว

        

นางสาวพรชนก กล่าวว่า  บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าเมกะเทรนด์ สะสมมูลค่า (KFCMEGA-A) โดยเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 7 –15 มิ.ย.นี้ มูลค่ากองทุน 100,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำที่ 500 บาท ความเสี่ยงระดับ 6

สำหรับนโยบายการลงทุนใน 5 เมกะเทรนด์ดังกล่าวของจีน จะลงทุนผ่าน 4 ETFได้แก่ 1. Global X MSCI China Consumer Discretionary ETFเน้นการลงทุนในกลุ่มสินค้าพุ่มเฟือยของจีน สัดส่วน 50%  2.Invesco China Technology ETF เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีของจีน ซึ่งกระจายอยู่ทั่วโลก ทั้งหุ้นที่จดทะเบียนในตลาด A-shares,H-shares และ ADRs สัดส่วน 20% 3. KraneShares MSCI China Clean Technology Index ETF ลงทุนในเทคโนโลยีสะอาดสัดส่วน 20% 4. KraneShares MSCI AIl China Health Care Index ETF ลงทุนในบริษัทของจีนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเพื่อสุขภาพ สัดส่วน 10%

 แนะนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงการลงทุนในหุ้นได้อยู่แล้ว สามารถลงทุนกองทุนนี้ได้ในสัดส่วน 10-15% ของการลงทุนในหุ้น สำหรับการลงทุนในระยะกลางถึงยาว หรือ 3 ปีขั้นไป เพื่อรับผลตอบแทนจากการเติบโตของทั้ง5เมกะเทรนด์ดังกล่าว