'ไทยยูเนี่ยน' ชี้โควิด-19 ดันเทรนด์อาหารสุขภาพชัดเจน

'ไทยยูเนี่ยน' ชี้โควิด-19 ดันเทรนด์อาหารสุขภาพชัดเจน

การแพร่ระบาดโควิด-19 กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงทุกๆด้านที่เรียกว่า นิวนอร์มอล ซึ่งด้านอาหารการกินก็เป็นอีกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเพราะเป็นปัจจัยสำคัญของการดำรงชีวิตผู้คนทุกคน

ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามแผน 5 ปีของบริษัท มีเป้าหมายพัฒนาแผนกลยุทธ์มุ่งสู่ปี2568โดยตั้งต้นจากแนวคิด Healthy Living, Healthy Oceans เป็นการสร้างกลยุทธ์จากเทรนด์ระยะยาวของผู้บริโภคทั่วโลกที่มองหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีความยั่งยืน ในขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์ในเรื่องความสะดวกในการซื้อหา จัดเตรียมและปรุงได้ง่ายซึ่ง การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ได้เปลี่ยนแทรนด์ผู้บริโภค ในทางตรงกันข้ามกลับเป็นตัวเร่งให้เทรนด์เหล่านี้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น กลยุทธ์2568ของบริษัทจึงไม่ได้มีการปรับเปลี่ยน ยังคงเดินหน้าในการผลิตอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีความยั่งยืนต่อไป

“โควิด-19มีผลกระทบบ้างต่อธุรกิจของเราในบางส่วน ตัวอย่างเช่น ลูกค้าของเราที่เป็นธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์ และผู้คนรับประทานที่บ้านมากขึ้นบริษัทเองได้มองเห็นโอกาสจากการที่คนหันมาซื้อของช่องทางออนไลน์และสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่มากขึ้น”

162262838968

ในมุมของทีมบริหาร ไทยยูเนี่ยนมองว่าโควิด-19ทำให้บริษัทต้องเน้นในเรื่องของสุขภาพและความปลอดภัยในการทำงานมากยิ่งขึ้น และบริหารจัดการต้นทุนด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้สามารถผ่านวิกฤติไปได้ รวมทั้งต้องมองไปถึงอนาคตว่าทำอย่างไรให้ธุรกิจเราเข็มแข็งขึ้นด้วย

162262834815

“โดยสรุปแล้ว ในปีที่ผ่านมาไทยยูเนี่ยนต้องบริหารจัดการสถานการณ์ต่างๆ ควบคู่ไปกับเดินหน้าธุรกิจตามกลยุทธ์ของเราในเรื่อง Healthy Living, Healthy Oceans ที่ยังคงเน้นในเรื่องการดูแลสุขภาพความเป็นอยู่ดีที่และดูแลสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะท้องทะเล เนื่องจากบริษัทของเราดำเนินธุรกิจอาหารทะเลเป็นหลัก”

สำหรับด้านการเงินนั้น ถือว่าบริษัทมีความเข็มแข็ง ไทยยูเนี่ยน เน้นลงทุนเพื่ออนาคตของธุรกิจหลัก ซึ่งก็คืออาหารทะเลแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง นอกจากนี้ก็ยังดูในด้านของการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ด้วย โดยเน้นการลงทุนในเรื่องของautomationและเทคโนโลยี พัฒนาการผลิตให้ก้าวทันอนาคต ใช้นวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทั่วโลก

การลงทุนที่จะเห็นในปีนี้ เช่นโรงงานผลิตอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทาน หรือ culinary project รวมการผลิตสินค้าอาหารพร้อมทานที่มีอยู่ที่โรงงานทั้ง 3 แห่งเข้าด้วยกัน ซึ่งการลงทุนในโรงงานใหม่นี้จะสามารถรองรับกำลังการผลิตได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

162262836756

โครงการนำร่อง “โรงงานแห่งอนาคต” ซึ่งเป็นโรงงานผลิตปลาทูน่ากระป๋อง โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการแปรรูปเนื้อป ล่าสุดได้ลงทุนเพิ่มใน Rugen Fisch ซึ่งหนึ่งในบริษัทผู้นำอาหารทะเลของเยอรมัน ซึ่งจะทำให้แบรนด์สินค้าอาหารทะเลกระป๋องของเราในตลาดยุโรปแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

จัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ดูแลธุรกิจโปรตีนทางโดยเฉพาะ โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยธุรกิจอื่นๆของบริษัทเพื่อพัฒนาโปรตีนทางเลือกคุณภาพสูง เพราะปัจจุบันเรามีสินค้าอาหารทะเลอยู่แล้ว โปรตีนทางเลือกก็จะทำให้เรามีสินค้าเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้ครบพร้อมมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้บริษัทยังลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เช่น ในธุรกิจส่วนประกอบอาหารหรืออินกรีเดียนท์ ที่ขณะนี้มีโรงงานน้ำมันปลาทูน่าสมุทรสาคร และ อีกโรงกลั่นน้ำมันปลาทูน่าบริสุทธิ์ที่ประเทศเยอรมัน รวมทั้งมีการเพิ่มไลน์การผลิตผงแคลเซียมจากกระดูกปลาทูน่าในโรงงานสงขลาแคนนิ่งและกำลังจะลงทุนในโรงงานผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสสและคอลลาเจนเปปไทด์ในจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้บริษัท ไทยยูเนี่ยน อินกรีเดียนท์

ไทยยูเนี่ยน ยังได้จัดตั้งบริษัท Thai Union Life Science เพื่อต่อยอดingredientsแต่เป็นแบบ B2C ขายปลีกให้กับผู้บริโภคโดยตรงในรูปแบบอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และลงทุนคือ Corporate Venture Capital ที่ใช้ลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ