หุ้นโรงไฟฟ้าพร้อมชิงเค้กใหญ่ หลังเวียดนามเปิดประมูล

 หุ้นโรงไฟฟ้าพร้อมชิงเค้กใหญ่  หลังเวียดนามเปิดประมูล

ดัชนีหุ้นไทยสามารถขึ้นมาทดสอบที่ระดับ 1,600 จุด หลังจากในช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาทิศทางตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวมาตลอด    มาจากการขายสุทธิของกลุ่มนักลงทุนสถาบันและต่างชาติ มี 36,636.36 ล้านบาท  และ 66,214.15 ล้านบาท ตามลำดับ  

กลายเป็นกลุ่มนักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อสุทธิมากที่สุดถึงระดับแสนล้านบาท  แต่ปรากฎว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายสำคัญกลับไม่ได้ปรับตัวขึ้นมาด้วยเลย   แต่หลังจากวัคซีนทางเลือกมีมากขึ้น และเตรียมกระจายฉีดวัคซีนทำให้ภาพตลาดหุ้นสะท้อนความหวังการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

หุ้นในกลุ่มที่ควรจะปรับตัวขึ้นในรอบใหญ่ตลาดรอบนี้จำเป็นต้องมีหุ้นขนาดใหญ่ และเม็ดเงินต่างชาติสนับสนุนขึ้นมาด้วย

กลุ่มที่ถือได้ว่ารองรับกับการกลับมาเติบโตของเศรษฐกิจได้ดีและรับกับอัตราดอกเบี้ยต่ำ
กลุ่มโรงไฟฟ้า ที่ผ่านมาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวแทบจะไม่ได้เห็นราคาปรับตัวขึ้น หลังเจอประเด็นการล็อกดาวน์   ทำให้มีความต้องการใช้งานไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมลดลง  แต่เมื่อเศรษฐกิจหลายประเทศที่เดินหน้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนแล้วฟื้นตัว  ย่อมต้องมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ประเด็นจะผลักดัน  “กลุ่มไฟฟ้า ในรอบนี้งานใหม่ในมือที่จะเพิ่มขึ้นจากโครงการในเวียดนามจะเริ่มทยอยออกมา  หลังมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำประเทศทำให้โครงการลงทุนและสาธารณูบริโภคหยุดชะงักไป  จนมีการเลือกนายกฯคนใหม่ขึ้นมาและเตรียมที่จะผลักดันการเติบโตตามแผนเศรษฐกิจฉบับที่ 8 ต้องการเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าเป็น 80,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 มีทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม  พลังงานถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ

หุ้นโรงไฟฟ้าที่เข้าลงทุนในตลาดเวียดนามแล้วและมีโอกาสจะคว้างานเพิ่มในเค้กก้อนนี้ มีทั้งรายใหญ่และรายเล็ก ซึ่งรายใหญ่มากับครบทุกรายและมีภาษีได้งานในมือเพิ่มไม่น้อย  บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF  ที่มีพอร์ตลงทุนในต่างประเทศและในประเทศ มีจำนวนกำลังผลิตไฟฟ้าในมือ ณ สิ้นปี 2563 ที่  2,959 เมกะวัตต์   

ที่เวียดนามได้เข้าลงทุนแล้ว  529 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นพลังงานลม Mekong Wind 8 เฟส ซึ่ง 3 เฟสแรกดำเนินการแล้วจำนวน 128 เมกะวัตต์ รวมทั้งโครงการที่จะเข้าประมูล LNG to Power  เพื่อริงรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมในเวียดนาม

คู่แข่งสำคัญ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM  คาดหวังโครงการเดียวกันที่มีออกมา 3000 เมกะวัตต์  และบริษัทยังมีโครงการ โรงไฟฟ้าโซลาร์ในเวียดนามรัฐบาลจัดการระบบจ่ายไฟฟ้า

รายใหญ่อีกรายบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH  ที่มีโครงการโรงไฟฟ้า Thang Long  620  เมกะวัตต์ ถือลงทุน 137 เมกะวัตต์ และ โครงการ Ecowin 30  เมกะวัตต์ ถือลงทุน 15 เมกะวัตต์ และ Nexif Ben Tre 80  เมกะวัตต์ ถือลงทุน 40 เมกะวัตต์

ล่าสุดได้บรรลุข้อตกลงการร่วมทุนก่อสร้างและดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี เบนเตร ในเวียดนาม ในโครงการที่ 2 ที่เน็กส์ซิฟ เอ็นเนอร์จี และ ราช กรุ๊ป ร่วมมือกัน

ปิดท้ายบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP มีโครงการลม  Vinh chau 30 เมกะวัตต์  และโครงการใหม่ที่เตรียมจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในครึ่งปีแรก 2564  ซึ่งบริษัทเตรียมเม็เงินเข้าซื้อโครงการในเวียดนามเพิ่ม

 บริษัทหลักทรัพย์ ( บล.)ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) วิเคราะห์กลุ่มโรงไฟฟ้า  จากการมองไตรมาส 2/2564 เป็นไฮซีซั่นของธุรกิจโรงไฟฟ้า เนื่องจากเป็นช่วงที่ภาคครัวเรือนใช้พลังงานไฟฟ้าสูง เพราะเป็นฤดูร้อน และอากาศก็ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ

ส่วนความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมไตรมาส 2/2564 ก็คาดว่าจะสูงขึ้นจากปีก่อนเพราะไตรมาส 2/2563 เป็นช่วงล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ แต่ไตรมาส 2/2564 มีการผลิตตามปกติ จึงประเมินว่าปริมาณการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าในไตรมาส 2/2564 จะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ และคาดการณ์ว่า Core profit ของธุรกิจไฟฟ้าก็จะขยายตัวได้ดีไปด้วย