ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนมิ.ย.64 มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนมิ.ย.64 มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยฯ ธ.ก.ส.ชี้ความต้องการตลาดโลกและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงเกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ราคาสินค้าเกษตรเดือน มิ.ย.2564 มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 1 มิ..64 นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในเดือนมิถุนายน 2564โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 10,637 -10,680 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.92 - 1.33 เนื่องจากความต้องการบริโภคข้าวเหนียวเพิ่มขึ้นในเทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่างของชาวจีน ประกอบกับสต็อกข้าวเหนียวของผู้ประกอบการเริ่มลดลง น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 17.14 - 17.24 เซนต์/ปอนด์ (11.89 - 11.96 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.60 - 1.20 เนื่องจากคาดว่าปริมาณการผลิตและการส่งออกเอทานอลของประเทศบราซิลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

โดยพบว่ายอดการส่งออก เอทานอลในช่วงเดือนมกราคม - เมษายน 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 69.2 จากปีก่อน ทำให้โรงงานน้ำตาลของบราซิลปรับเพิ่มสัดส่วนการนำอ้อยไปผลิตเอทานอล ขณะที่ความต้องการใช้น้ำตาลของโลกยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยจีนได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์การนำเข้าน้ำตาลอีก 0.6 ล้านตันเป็น 4.5 ล้านตัน จากการที่ผลผลิตน้ำตาลภายในประเทศลดลง

ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 58.08 – 58.80 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.82 – 2.07 เนื่องจากปริมาณยางพาราที่ออกสู่ตลาดมีแนวโน้มลดลงกว่าที่คาดการณ์ จากการขาดแคลนแรงงานกรีดยางและภูมิอากาศฝนตกชุก ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากการเข้าถึงและการกระจายวัคซีน ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลเยนของประเทศญี่ปุ่น และเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ

ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 5.16 - 5.22 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ร้อยละ 4.09 - 5.33 เนื่องจากผลผลิตน้ำมันปาล์มของประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มอันดับ 2 ของโลกปรับตัวลดลง เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างชาติในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน


ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่

ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 8,642 - 8,706 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.24 - 1.96 เนื่องจากปริมาณผลผลิตข้าวและสต็อกข้าวของอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณข้าวส่วนเกินระบายออกสู่ตลาดโลกเป็นจำนวนมาก

ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 11,235 - 11,381  บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 1.51 - 2.77 เนื่องจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้เกิดปัญหาการส่งออกข้าวไทย โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกาและตลาดยุโรป ประกอบกับความต้องการใช้ของผู้ประกอบการ อาทิ ร้านอาหารและภัตตาคาร ลดลงจากนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 7.59 - 7.63 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.20 - 0.80 เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูการ  เก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่นที่ 1 ปริมาณผลผลิตทยอยออกสู่ตลาด ขณะที่ผู้ประกอบการได้มีการนำเข้าวัตถุดิบอื่นเพื่อผลิตอาหารสัตว์ในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศทรงตัว

มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 1.89 - 1.93 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.52 – 2.58 เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูกาลเก็บเกี่ยว ลานมันสำปะหลังเส้นปิดการรับซื้อ และผลผลิตที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวได้อาจมีคุณภาพลดลงจากปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น

สุกร ราคาอยู่ที่ 75.08 -76.28 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.44 – 2.01 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังรุนแรงต่อเนื่อง และมาตรการเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรลดลง

กุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 137.20 - 138.32 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.20 - 2.00 เนื่องจากมีปัจจัยกดดันราคาจากมาตรการควบคุมร้านอาหารเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คาดว่าจะยังคงเข้มงวดในพื้นที่เสี่ยงสูง และความกังวลของผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัย ประกอบกับสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศที่ซบเซา ส่งผลให้ความต้องการบริโภคกุ้งในประเทศลดลง

โคเนื้อ ราคาอยู่ที่ 98.24– 98.31  บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน ร้อยละ 0.01 - 0.08 เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ความต้องการบริโภคเนื้อโคลดลงตามแนวโน้มเนื้อสัตว์ประเภทอื่น จากอาหารตามธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้ผลผลิตเนื้อโคอาจลดลงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินในโคและกระบือ