'ศรีนานาพร'เล็งขายหุ้นไอพีโอ 7-9 ก.ค. คาดเข้าเทรด 20 ก.ค.64

'ศรีนานาพร'เล็งขายหุ้นไอพีโอ 7-9 ก.ค. คาดเข้าเทรด 20 ก.ค.64

"ศรีนานาพร ”ไตรมาส1/64 กวาดรายได้รวม 1.23 พันล้าน กำไรสุทธิ 172 ล้าน โต 3ไตรมาสติด คาดขายหุ้นไอพีโอ ไม่เกิน240 ล้านหุ้น 7-9 ก.ค. เข้าเทรด 20 ก.ค.64 

นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวของประเทศไทย เปิดเผยว่า  ผลการดำเนินงานในไตรมาส1ปี 2564 ของบริษัทถือว่ามีการเติบโตที่ดี แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  โดยมีรายได้รวม 1,239 ล้านบาท  แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 1,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

 ทั้งนี้สะท้อนศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ SNNP ที่มีความแข็งแกร่งด้านพอร์ตโฟลิโอสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวที่มีความหลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการ ครอบคลุมทุกช่วงเวลาและโอกาสในการบริโภค ตลอดจนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์เยลลี่พร้อมดื่มผสมวิตามิน ภายใต้แบรนด์เจเล่ ซึ่งช่วยเสริมให้ยอดขายสินค้าในกลุ่มเยลลี่ซองเติบโตได้ต่อเนื่องตลอดตั้งแต่ก่อนสถานการณ์โควิด-19 จนถึงปัจจุบัน 

    

รวมถึงการปรับกลยุทธ์ทำให้ยอดขายสินค้าแบรนด์เบนโตะ มียอดขายเติบโตกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ทั้งที่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่มาซื้อสินค้าแบรนด์เบนโตะในประเทศ เคยเป็นสัดส่วนยอดขายที่สำคัญในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ยังคงไม่กลับมา

ขณะที่บริษัทกำไรสุทธิ 172 ล้านบาท โดยเป็นการทำกำไรเติบโตติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 นับจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา  เนื่องจากบริษัทมีการพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตและการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องตลอดตั้งแต่ปี 2563 โดยต้นทุนขายต่อรายได้อยู่ที่ 73.7% ลดลง 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนค่าใช่จ่ายในการขายและบริการต่อรายได้อยู่ที่ 20% หรือ ลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้กำไรสุทธิดังกล่าวมีรายการพิเศษจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของเงินลงทุนในบริษัทย่อยรวมอยู่ด้วยทั้งสิ้น 128 ล้านบาท

นายวิวรรธน์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้วางรากฐานระบบจัดจำหน่ายและการผลิตทั้งในประเทศและภูมิภาค CLMV เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ได้แก่ เจเล่ ,ไดยาโมโตะ, ฮีโร่บอยส์, เมจิกฟาร์มเฟรช, อควาวิตซ์ และผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว ได้แก่ เบนโตะ ดอกบัว โลตัส ช๊อคกี้และเบเกอรี่เฮาส์ ผ่านกลยุทธ์เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ มุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของช่องทางการจัดจำหน่ายและกระจายสินค้าให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตและก้าวสู่การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวแห่งอาเซียนได้ในอนาคต

สำหรับความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ( IPO)ไม่เกิน240 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 0.50บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นชำระแล้วหลังไอพีโอ คาดว่าจะเสนอขายหุ้นไอพีโอได้ 7-9 ก.ค. และคาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)วันที่ 20 ก.ค.2564