‘หญิงอังกฤษดับ’ในไซปรัสหลัง‘ฉีดแอสตร้าฯ’

‘หญิงอังกฤษดับ’ในไซปรัสหลัง‘ฉีดแอสตร้าฯ’

หญิงอังกฤษวัย 39 ปี เสียชีวิตในโรงพยาบาลไซปรัส เกิดลิ่มเลือดอุดตันหลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

สำนักข่าวไซปรัสนิวส์ของทางการไซปรัส รายงานว่า หญิงอังกฤษรายนี้ เข้ารักษาตัวในห้องไอซียูโรงพยาบาลนิโคเซียเจเนอรัล หลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรก เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่เมืองพาฟอสชายฝั่งตะวันตกของประเทศ หลังจากนั้นมีอาการเจ็บป่วย หนังสือพิมพ์ไซปรัสเมล์รายงานว่า เธอมีอาการเลือดออกในสมองจนโคมาก่อนเสียชีวิต

หน่วยงานสาธารณสุขไซปรัสสอบสวนการเสียชีวิตแล้ว เพื่อหาว่าการเกิดลิ่มเลือดอุดตันรุนแรงเกี่ยวข้องกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าหรือไม่ และสำนักงานยายุโรป (อีเอ็มเอ) จะสอบสวนการเสียชีวิตด้วย 

นอกจากนี้ยังพบอาการลิ่มเลือดอุดตันอย่างอ่อนอีก 4 คน โดย 3 คนเกิดหลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า อีก 1 คนหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ทางการไซปรัสกำลังสอบสวนทุกกรณี

ขณะนี้บางประเทศควบคุมหรือยกเลิกการใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าแล้วเพราะกังวลเรื่องลิ่มเลือดอุดตันที่พบได้ยากมาก แต่อีเอ็มเอกล่าวว่า ประโยชน์ยังมีมากกว่าความเสี่ยง หน่วยงานกำกับดูแลการฉีดวัคซีนของอังกฤษแนะนำให้ใช้เป็นวัคซีนทางเลือกสำหรับคนอายุต่ำกว่า 40 ปี 

สำหรับไซปรัสใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นหลัก ฉีดให้ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป แต่หลายคนที่จองฉีดออนไลน์กลับเมินแอสตร้าฯ มองหาวัคซีนยี่ห้ออื่นแทน

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Our World in Data ไซปรัสฉีดวัคซีนต่อหัวประชากรสูงเป็นอันดับ 3 ของสหภาพยุโรป (อียู) 57.54 โดสต่อประชากร 100 คน ผู้ใหญ่เกือบ 49% ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว และ 21% ฉีดครบแล้ว การติดเชื้อสะสมนับตั้งแต่โควิดระบาดเมื่อเดือน มี.ค. 2563 อยู่ที่ 71,911 คน เสียชีวิต 354 คน