'การบินไทย' เลิกจ้างพนักงานสัญญาเก่า 508 คน ยันต้องปรับโครงสร้างฟื้นฟูธุรกิจ

'การบินไทย' เลิกจ้างพนักงานสัญญาเก่า 508 คน ยันต้องปรับโครงสร้างฟื้นฟูธุรกิจ

"การบินไทย" เลิกจ้างพนักงาน 508 คน กลุ่มถือสัญญาเก่าไม่ตอบรับร่วมโครงสร้างองค์กรใหม่ แจงโควิด-19 เป็นเหตุ ธุรกิจต้องฟื้นฟู เขย่าบุคลากรให้สอดคล้องปริมาณงาน

รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ลงนามในประกาศ มอบอำนาจและมอบหมายให้ประธานเจ้าหน้าที่สายทรัพยากรบุคคลเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการในกิจการต่างๆ อันเกี่ยวกับการบริหารงานทรัพยากรบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพนักงานที่อยู่ภายใต้โครงสร้างองค์กรเดิมแทนบริษัทฯ ตามที่เห็นว่าจำเป็นและสมควร ซึ่งรวมถึงการมอบหมาย
งาน การออกคำสั่งเกี่ยวกับการส่งมอบงาน การอนุมัติวันลา การจัดวันหยุดพักผ่อนประจำปี การดูแล
การปฏิบัติดามระเบียบ ข้อบังคับการทำงานของพนักงาน รวมถึงให้มีอำนาจจัดการใดๆ ที่จำเป็นและ
เหมาะสมเกี่ยวกับพนักงานที่อยู่ภายใต้โครงสร้างองค์กรเดิมของบริษัทฯ

โดยให้พนักงานทุกคนที่ไม่ได้เข้าสู่โครงสร้างองค์กรปัจจุบันของบริษัทฯ ดำเนินการส่งมอบงานที่ตนเองทำไว้ หรือที่อยู่ในการครอบครองของตนเองให้กับประธานเจ้าหน้าที่ของแต่ละสายงานที่เกี่ยวข้องกับสายงานของตน หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมาย เช่น พนักงานในตำแหน่ง Aircraft Engineer 4 ในสังกัดฝ่ายช่าง (DT) ตามโครงสร้างเดิม ให้ส่งมอบงานให้ประธานเจ้าหน้าที่สายช่าง (DT) ตามโครงสร้างปัจจุบัน หรือพนักงานที่ประธานเจ้าหน้าที่สายช่าง (DT) มอบหมายให้รับงานต่อ โดยให้ดำเนินการส่งมอบให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 พ.ค. 2564

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ออกประกาศ ลงวันที่ 21 พ.ค.2564 ลงนามโดยนายสุวรรธนะ สีบุญเรือง ประธานเจ้าหน้าที่สายทรัพยากรบุคคล ผู้รับมอบอำนาจช่วงจากรักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยระบุจากผลกระทบโควิด-19 และการเข้าฟื้นฟูกิจการทำให้บริษัทฯ ต้องปรับโครงสร้างองค์กร และลดค่าใช้จ่าย ให้มีกระแสเงินสดเพียงพอ เป็นเหตุให้ต้องเลิกจ้างพนักงาน 508 คน ที่ไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงสร้างองค์กรใหม่ และยังถือสัญญาการจ้างงานเดิม

โดยบริษัทฯ ยืนยันที่จะจ่ายชดเชยการเลิกจ้าง เงินอื่นๆ ตามกฎหมาย และเงินที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างหรือระเบียบบริษัทฯ ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล โดยมีรายละเอียดตังต่อไปนี้
1. ค่าจ้างถึงวันทำงานวันสุดท้าย
2. วันหยุดพักผ่อนประจำปีที่ยังไม่ใด้ใช้
3. ค่าชดเชย
4. สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
5. เงินบำเหน็จ

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวข้างต้นหลังจากหักภาษี ณ ที่จ่าย (สำหรับพนักงานที่บริษัทไม่ได้
รับภาระภาษีให้) และหนี้จำนวนใด ที่ท่านมีอยู่ต่อบริษัทฯ หรือสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานบริษัท
การบินไทย จำกัด ให้แจ้งคืนทรัพย์สินของบริษัทฯ ตามที่ครอบครอง ภายในวันที่ 31 พ.ค.2564

ขณะที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า ตามที่บริษัทฯ ประสบปัญหาขาดทุนสะสมต่อเนื่องมายาวนาน ประกอบกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019  (COVID-19) ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถประกอบกิจการการบินได้ตามปกติ จนกระทั่งบริษัทฯ ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการและเมื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการแล้ว บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องปรับปรุงองค์กรทุก ๆ ด้าน อาทิ ด้านแรงงาน ด้านการลงทุน หรือด้านกลยุทธ์ในการประกอบธุรกิจ เพื่อลดต้นทุนลงและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดธุรกิจการบิน การปรับปรุงองค์กรดังกล่าวเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งที่จะทำให้บริษัทฯ สามารถประกอบกิจการต่อไปเพื่อให้มีกระแสเงินสดเพียงพอสำหรับชำระหนี้ให้แก่บรรดาเจ้าหนี้ตามที่กำหนดไว้ในแผนฟื้นฟูกิจการ ตลอดจนเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของบริษัทฯ ให้กลับมาประกอบธุรกิจการบินได้อย่างมั่นคงและเป็นสายการบินแห่งชาติที่คนไทยภาคภูมิใจ

ด้วยเหตุดังกล่าวข้างตัน บริษัทฯ จึงได้ปรับปรุงโครงสร้างองค์กรให้มีจำนวนพนักงานให้เหมาะสมกับปริมาณงานและสถานะทางการเงินของบริษัทฯ ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานแสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองและผ่านการกลั่นกรองเข้าสู่โครงสร้างองค์กรใหม่ในตำแหน่งงานถาวรจำนวน 10,733 อัตรา และตำแหน่งชั่วคราวจำนวน 257 อัตรา รวมเป็น 10,990 อัตราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ประกอบกับที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้จัดทำโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP) และมีพนักงานเสียสละเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 6,725 คน

สำหรับพนักงานจำนวน 508 คน ที่ไม่ประสงค์จะเดินหน้าไปกับบริษัทฯโดยไม่แสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองสู่โครงสร้างองค์กรใหม่รวมถึงไม่สมัครเข้าร่วมโครงการร่วมใจจากองค์กร นั้น เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2564 เวลา 14.30 น. บริษัทฯ ได้เลิกจ้างพนักงานดังกล่าวโดยให้มีผลในวันที่ 31 พ.ค. 2564  ทั้งนี้ ในการเลิกจ้างดังกล่าว บริษัทฯ ปฏิบัติตามกฎหมายแรงงานโดยจะจ่ายเงินตามมาตรฐานขั้นต่ำที่กำหนดโดยกฏหมายแรงงาน