กำไรบจ.โค้งแรก 2.6 แสนล้าน! โบรกฯ แห่เพิ่มเป้าปี 64

กำไรบจ.โค้งแรก 2.6 แสนล้าน! โบรกฯ แห่เพิ่มเป้าปี 64

"บล.เอเซีย พลัส" เผยไตรมาส 1/64 บจ.กำไร 2.6 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 141% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หนุนปรับเพิ่มเป้ากำไรปีนี้เป็น 8.05 แสนล้าน “บล.เมย์แบงก์ฯ” ชี้นักวิเคราะห์ทยอยปรับ EPS ฝั่ง “บล.ซีจีเอสฯ” เชื่อวัคซีนกระจายครึ่งปีหลังหนุนเพิ่มเป้ากำไรอีกครั้ง

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2564 ออกมาแล้วจำนวน 593 บริษัท (ณ 17 พ.ค.) ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) 95% ของมาร์เก็ตแคปรวมทั้งตลาด โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.59 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 141% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไร 1.07 แสนล้านบาท และเพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาสที่แล้ว 1.84 แสนล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดคาด 39% จากเดิมคาดกำไรบจ.ไตรมาส1ปีนี้จะอยู่ที่  1.87 แสนล้านบาท

สำหรับกลุ่มที่กำไรเพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ กลุ่มของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ 1.05 หมื่นล้านบาท เติบโต 1,632% จากปีก่อนที่มีกำไร 611 ล้านบาท (รวม บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT), กลุ่มพลังงาน 8.3 หมื่นล้านบาท เติบโต 540% จากปีก่อนขาดทุน 1.88 หมื่นล้านบาท, กลุ่มเหล็ก 3.74  พันล้านบาท เติบโต 484% จากปีก่อนขาดทุน 974 ล้านบาท, กลุ่มปิโตรเคมี 1.76 หมื่นล้านบาท  โต 419% จากปีก่อนขาดทุน 5.5 พันล้านบาท และกลุ่มเกษตร 6.7 พันล้านบาท เติบโต 364% จากปีก่อน 1.4 พันล้านบาท

162134651211

ส่วนมุมมองกำไรบจ.ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 คาดว่าหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะกลับมาฟื้นตัว เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มสื่อ และกลุ่มท่องเที่ยว-ขนส่งทางอากาศ ฯลฯ โดยปัจจัยหนุนมาจากการกระจายวัคซีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากรายงานข่าวที่วัคซีนของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าจะพร้อมฉีดเดือน มิ.ย. และวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ที่จะพร้อมฉีดเดือน ก.ค.

ดังนั้นฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส จึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรบจ.ปี 2564 มาอยู่ที่ 8.05 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.96%จากเดิมคาดอยู่ที่ 7.19 แสนล้านบาท

“กลยุทธ์การลงทุนในระยะยาวถึงสิ้นปี 2564 แนะนำซื้อหุ้นรับการเติบโตช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปิดเมือง ได้แก่ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อานิสงส์การลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในครึ่งหลัง และกลุ่มท่องเที่ยว-อาหาร ควรเลี่ยงกลุ่มค้าปลีก จากการบริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัว”

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยยังคงเป้าหมายกำไรบจ.ปีนี้ที่ 9.2 แสนล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 84 บาท แต่คาดว่านักวิเคราะห์ในตลาดจะทยอยปรับเพิ่มเป้ากำไรขึ้น เพราะกำไรไตรมาส 1/64 ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ โดยปัจจุบันเริ่มเห็นสัญญาณจากค่าเฉลี่ย EPS ที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 82 บาท เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่ 75 บาท

อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรไตรมาส 2 ปี 2564 มีความเสี่ยงปรับตัวลงจากไตรมาสแรก และคาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของกำไรปี 2564 จากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่คาดว่าจะส่งผลให้กลุ่มธนาคารจำเป็นต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเพื่อรับมือความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ขณะที่ไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้คาดการณ์ภาพการเติบโตดีขึ้นภายใต้เงื่อนไขการกระจายวัคซีนที่ทั่วถึงและการกลับมาเปิดประเทศตามแผนของรัฐบาล

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า บล.ซีจีเอสฯ ทยอยปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรบจ.ปี 2564 มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด คาดการณ์เติบโต 44% อยู่ที่ 5.67 แสนล้านบาท (กำไรบจ.กว่า 100 บริษัท คิดเป็นมาร์เก็ตแคป 70-80%) จากในช่วงต้นปีที่คาดว่าจะเติบโต 36% โดยหลักมาจากความคาดหวังเชิงบวกจากการกระจายวัคซีนในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ รวมถึงมีแผนปรับเพิ่มประมาณการกำไรบจ.อีกครั้ง หลังประเมินสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ