KEX - ซื้อ (18 พ.ค.64)

KEX - ซื้อ (18 พ.ค.64)

คาดว่ากำไรจะแข็งแกร่งขึ้นใน 2H64

Event

ประชุมนักวิเคราะห์ 1Q64

lmpact

การขยายตลาดในกลุ่มราคาประหยัดส่งผลกระทบในระยะสั้น แต่จะส่งผลดีในระยะยาว

กำไรสุทธิของ KEX ใน 1Q64 อยู่ที่ 303 ล้านบาท (-19.2% QoQ, -18% YoY) โดยกำไรที่ลดลง QoQ เป็นเพราะมีการใช้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการเพิ่มขึ้นเพื่อโปรโมตแคมเปญใหม่ของบริษัทที่ปรับลดราคาขั้นต่ำลงจากเดิม 30 บาทเหลือ 25 บาทเพื่อขยายตลาดไปสู่กลุ่มราคาประหยัด แต่เมื่อเทียบ YoY กำไรลดลงเพราะรายได้จากบริการจัดส่งพัสดุลดลง 14% YoY ทั้งนี้ปริมาณพัสดุที่จัดส่งใน 1Q64 เพิ่มขึ้น 13% YoY จากแคมเปญราคาถูก แต่กลยุทธ์นี้กลับกดดันราคาเฉลี่ยต่อพัสดุ (Average Price Per Parcel หรือ APP) และรายได้จากบริการจัดส่งพัสดุให้ลดลง YoY อย่างไรก็ตามเราคาดว่าการรุกขยาย
ตลาดในกลุ่มราคาประหยัดจะช่วยให้ KEX รักษาความเป็นผู้นำในแง่ส่วนแบ่งตลาดและผลกำไรในระยะยาวเอาไว้ได้

ผลประกอบการใน 2Q64 จะถูกกดดันจากปัจจัยฤดูกาล และ COVID-19 แต่กำไรจะโตใน 3Q64

แนวโน้มผลประกอบการใน 2Q64 ยังไม่สดใสเนื่องจาก i) 2Q เป็นช่วงโลว์ ซีซั่นของธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วน (CEP) ii) COVID-19 ที่กลับมาระบาดระลอกสามกดดันการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค และ iii) อุปสงค์ลดลงเมื่อเทียบกับ 2Q20 ที่มีอุปสงค์ของบริการ CEP สูงผิดปกติในช่วงที่มีการล็อคดาวน์ใน 2Q63 เราคาดว่าผลประกอบการจะกลับมาโตตั้งแต่ 3Q64 เป็นต้นไป จากปัจจัยฤดูกาลเนื่องจากธุรกิจ CEP ใน 2H มักจะดีกว่าใน 1H นอกจากนี้ เราคาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้ตั้งแต่ 3Q64 เป็นต้นไปซึ่งจะช่วยหนุนการบริโภคและการซื้อสินค้าออนไลน์ (e-commerce) ซึ่งต้องอาศัยบริการ CEP

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2564-65 ลงเพื่อสะท้อนผลประกอบการงวด 1Q64

เพื่อสะท้อนถึงกำไรสุทธิใน 1Q64 ที่คิดเป็นสัดส่วนเพียง 20% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา และแนวโน้มที่น่าจะยังอ่อนแอใน 2Q64 เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-65 ของ KEX ลง โดยเราได้ปรับลดสมมติฐานรายได้ปี 2564-65 ลง 1% - 2% จากการปรับลดอัตราค่าจัดส่งพัสดุเฉลี่ยต่อชิ้นลงจากเดิม 4% - 5% เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการขยายตลาดในกลุ่มราคาประหยัดซึ่งคาดว่าจะมีการใช้กลยุทธ์ตัดราคา แต่ปรับเพิ่มปริมาณการจัดส่งพัสดุ 4% ทั้งในปี 2564 และ 2565 ทั้งนี้หลังจากปรับสมมติฐานดังกล่าวแล้วทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 25564-65 ของเราลดลงจากเดิม 7% - 12% เหลือ
1.4 พันล้านบาทในปี 2564 (ทรงตัว YoY) และ 1.7 พันล้านบาทในปี 2565 (+29% YoY)

Valuation and action

เราปรับลดราคาเป้าหมาย DCF ปี 2565 ของ KEX ลงจากเดิม 68.00 บาท เหลือ 56.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 7.9% และ g ที่ 2.0%) เราแนะนำ ซื้อ KEX เนื่องจาก i) มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2565 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเติบโตของธุรกิจ e-commerce ii) ยังมี upside จากการที่ SF Holdings ซึ่งเป็นบริษัท logistic ในจีนมีแผนจะเข้ามาลงทุนใน KLN Logistic Network (ซึ่งถือหุ้น KEX ทางอ้อม)

Risks

จัดส่งพัสดุน้อยกว่าที่คาด และการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น