ยังเน้นเลือกรายตัวระหว่างรอดัชนีแกว่งตัวรอปัจจัยใหม่

ยังเน้นเลือกรายตัวระหว่างรอดัชนีแกว่งตัวรอปัจจัยใหม่

สศช.ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2564 เหลือ 1.5-2.5%

ในการรายงานการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ไตรมาส 1/64 ที่ -2.6% ดีขึ้นเล็กน้อยจาก -4.2% ในช่วงไตรมาส 4/63 อย่างไรก็ตามทางสภาพัฒน์ (สศช.) ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้ลง เหลือ 1.5-2.5% จากเดิม 2.5-3.5% โดยหลักมาจากผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดโควิดที่กระทบต่อการบริโภค และภาคบริการจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น่าจะเหลือเพียง 5 แสนราย (จากประมาณการเดิมที่ 2 ล้านราย และ 5 ล้านราย ก่อนหน้านั้น) ซึ่งเราประเมินเป็นจิตวิทยาลบต่อกลุ่มที่อิงเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งธนาคาร ท่องเที่ยว จนกว่าสถานการณ์ระบาดในประเทศจะส่งสัญญาณดีขึ้น

ติดตามความผันผวนของโภคภัณฑ์และรายงานประชุมเฟดพุธนี้ สินค้าโภคภัณฑ์และหุ้นที่เกี่ยวข้องหลายตัวมีแรงขายทำกำไรในช่วง 2-3 วันทำการที่ผ่านมา จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตามทิศทางโดยรวมของความต้องการที่ฟื้นตามเศรษฐกิจโลก ทำให้การปรับฐานลงมาของสินค้าหลายตัว จะเปิดโอกาสในการกลับเข้าเก็งกำไรในหุ้นที่เกี่ยวข้อง นักลงทุนควรติดตามรายงานการประชุมเฟดพุธนี้ ซึ่งคาดจะส่งผลต่อความมั่นใจในการดำเนินนโยบายผ่อนคลายของเฟด มากกว่าส่งสัญญาณเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยหรือลดการผ่อนคลายในเวลาอันใกล้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อสินค้าโภคภัณฑ์และสินทรัพย์เสี่ยง

ตลาดเก็งกำไรหุ้นที่เข้าและถูกเพิ่มน้ำหนักใน MSCI แม้รอบนี้ไทย ถูกปรับลดน้ำหนักการลงทุนลงเหลือ 1.73% (จาก 1.83%) ซึ่งคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจกดดันการเคลื่อนไหวของ SET Index ในระยะสั้น และกระทบต่อหุ้นที่หลุดคำนวณ อย่าง KBANK-F และ DTAC รวมทั้งหุ้นที่ถูกลดน้ำหนัก อาทิ PTT, KBANK, INTUCH, CPN, SCC, CPALL, EGCO, TU อย่างไรก็ตามการเก็งกำไรหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาจทำได้โดยเลือกหุ้นที่เข้าคำนวณ SCGP, CBG หรือหุ้นที่ถูกปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ได้แก่ OSP, KTC, STGT, BH / หุ้นขนาดเล็ก ที่เข้าคำนวณ Global Small Cap ได้แก่ ACE, PSL, RCL, SCCC, SINGER, SYNEX, TTA และ TOA / มุมมองทางกลยุทธ์ประเมิน CBG, OSP, ACE, TOA น่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรในช่วง 1-2 สัปดาห์ ก่อนการปรับดัชนีมีผล 27 พ.ค.64

กลยุทธ์ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวในธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, IRPC 2) อาหารและเกษตร TVO, CPI, TU, CPF 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP และ KK เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE 5) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM 6) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัวรอปัจจัยใหม่ เน้นเลือกหุ้นรายตัวที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ โดยยังคงคำแนะนำไม่ไล่ราคาในหุ้นที่ปรับขึ้นมาก // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร PTT*, KEX*, TIP*, TIDLOR*

แนวรับ 1,520-1,540 / แนวต้าน : 1,560-1,585 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

ประธานเฟดแอตแลนตาหนุนเดินหน้าผ่อนคลายทางการเงิน. นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวสนับสนุนแนวทางการเดินหน้านโยบายผ่อนคลายทางการเงิน แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อกำลังเร่งตัวสูงขึ้น โดยระบุว่าตัวเลขการจ้างงานยังคงต่ำเกินไป 8 ล้านตำแหน่งเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ทำให้ยังคงมีช่องว่างในการใช้นโยบายการเงินที่มีการผ่อนคลายอย่างมากต่อไป

สินเชื่อแบงก์ไตรมาส 1/64 โตชะลอเหลือ 3.8%. ธปท.เผยภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 1/64 โตชะลอมาอยู่ที่ 3.8% yoy พร้อมระบุว่าคุณภาพสินเชื่อยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และการผ่อนปรนเกณฑ์จัดชั้นลูกหนี้ โดย NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 537.1 พันล้านบาท หรือ 3.10% ต่อสินเชื่อรวม ในส่วนของกำไรสุทธิปรับลดลง 12.02% yoy

ลงทะเบียนวัคซีนสำหรับคนทั่วไป 31 พ.ค. - "หมอพร้อม" ทั้ง Line Official Account และแอปพลิเคชัน จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18-59 ปี เริ่มลงทะเบียนเพื่อรับบริการฉีดวัคซีนผ่านตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม นี้เป็นต้นไป

 

ประเด็นติดตาม: - 18 พ.ค.: EU GDP Q1/64, 20 พ.ค.: FOMC Meeting Minute/ US Initial Jobless Claims,    21 พ.ค.: US Manufacturing PMI เดือน พ.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)