ITD ไตรมาส 1/64 พลิกกำไร 247 ล้านบาท รายได้ตปท.-บิ๊กโปรเจคพุ่ง

นางนิจพร จรณะจิตต์ กรรมการรองประธานบริหารอาวุโส บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการรับเหมาก่อสร้าง การขาย และให้บริการ จำนวน 15,070 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นจำนวน 498 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเนื่องจากรายได้ของบริษัทย่อยและกิจการร่วมค้าบางแห่งในต่างประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากโครงการขนาดใหญ่บางแห่งในประเทศที่มีการดำเนินงานเพิ่มขึ้น

ขณะที่ต้นทุนในการให้บริการรับเหมาก่อสร้าง การขาย และให้บริการ อยู่ที่ 13,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นจำนวน 535 ล้านบาท ตามการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการรับเหมาก่อสร้าง

โดยในไตรมาสแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นจำนวน 1,464 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน ที่มีกำไรขั้นต้นจำนวน 1,502 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสแรกของปี 2564 เท่ากับ 9.71% ลดลงจากปีก่อน ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 10.30% ส่วนหนึ่งเนื่องจากการลดลงของกำไรขั้นต้นของบริษัทย่อยบางแห่งและโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานบางโครงการ

ในไตรมาสแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 163 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นจำนวน 215 ล้านบาท ส่วนใหญ่เนื่องจากมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากสินทรัพย์ที่เป็นเงินตราต่างประเทศของบริษัท ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายอยู่ที่ 12 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนเป็นจำนวน 16 ล้านบาท ส่วนใหญ่เนื่องจากคำาใช้จ่ายในการส่งเสริมการขายของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งที่ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลดลง

ขณะที่ค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่าอยู่ที่ 3 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนเป็นจำนวน 368 ล้านบาท เนื่องจากการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่ของบริษัทย่อยบางแห่งในต่างประเทศลดลง

ด้านส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าในไตรมาสแรกของปี 2564 อยู่ที่ 9 ล้านบาท คิดเป็นกำไรเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นจำนวน 75 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเนื่องจากบริษัทร่วมในต่างประเทศขาดทุนลดลง

ในส่วนของภาษีเงินได้อยู่ที่ 151 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนเป็นจำนวน 50 ล้านบาท ส่วนใหญ่เนื่องจากภาษีเงินได้ของสาขาและบริษัทย่อยลดลง และจากที่กล่าวข้างต้น ในไตรมาสแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีการแบ่งปันกำไรสำหรับปี ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 247 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นจำนวน 578 ล้านบาท (ช่วงเดียวกันปีก่อนขาดทุน 330 ล้านบาท)