CPF - ซื้อ (17 พ.ค.64)

CPF - ซื้อ (17 พ.ค.64)

มาตามนัด

กำไร CPF 1Q ที่ 6.9 พันลบ. (+14% yoy, +8% qoq) ผลประกอบการที่ดีกว่าคาดมาจากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจฟาร์มสุกรในจีน และราคาสุกรที่สูงขึ้นทั้งในไทยและเวียดนาม ขณะที่ราคาสุกรในเวียดนามและจีนมีแนวโน้มอ่อนแอในในปีนี้แต่ได้รับการชดเชยจากกำลังการผลิตที่สูงขึ้น นอกจากนี้เราคาดว่าราคากากถั่วเหลืองจะลดลงตั้งแต่ 2Q เนื่องจากซัพพลายที่เพิ่มขึ้นจากผลผลิตใหม่ ช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 2H21 คงคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมายที่ 43.50 บาทต่อหุ้น

 

กำไร 1Q21 เติบโต 18% yoy

CPF รายงานกำไร 1Q ที่ 6.9 พันลบ. (+14% yoy, +8% qoq) ดีกว่าคาดการณ์ของตลาด 8% แต่ใกล้เคียงกับประมาณการของเรา หนุนโดยส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจฟาร์มสุกรในจีนและราคาสุกรที่สูงขึ้นทั้งในไทยและเวียดนาม ทั้งนี้หากเราไม่รวม CTI (ธุรกิจฟาร์มสุกรใหม่ในจีน) รายได้จากการขายเติบโต 9%yoy และกำไรสุทธิโต 24%

 

ราคาสุกรที่อ่อนแอชดเชยจากกำลังการผลิตที่สูงขึ้น

ราคาสุกรในประเทศจะยังอยู่ในระดับสูงที่ 80 บาทต่อกก. หนุนจากความสมดุลระหว่าง Demand กับ Supply ประกอบกับมีความต้องการที่สูงขึ้นจาก CLMV ขณะที่ราคาสุกรในเวียดนามอาจอ่อนแอลงแต่ยังคงอยุ่ในระดับสูงกว่า 90 บาทต่อกก. หรือ VND68,000/กก. เทียบกับ VND74,654/กก.ใน 2020 แต่กำลังการผลิตที่สูงขึ้น 20% จะช่วยชดเชย ราคาสุกรในจีนลดลง 30% สู่ CNY31/กก. เทียบกับ CNY44.95/กก. ใน 2020 แต่จะได้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น 30-40% ที่ CTI ช่วยชดเชย

           

คาดต้นทุนกากถั่วเหลืองจะลดลง

คาดต้นทุนกากถั่วเหลืองผ่านระดับสูงสุดไปแล้วใน 1Q และจะอ่อนแอลงต่อใน 2Q เนื่องจากเข้าฤดูเก็บเกี่ยวใหม่ บริษัทมีสต๊อกข้าวโพดและกากถั่วเหลือง 3-4 เดือน ดังนั้นเราคาดต้นทุนอาหารสัตว์จะลดลงใน 2Q21 และจะกระทบกำไรใน 3Q21

 

คงคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมาย 43.50 บาท

เราคงคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมาย 43.50 บาทจากแนวโน้มเชิงบวกใน 2H21 หนุนโดย (1) High season ใน 3Q, (2) ต้นทุนอาหารสัตว์ที่คาดว่าจะลดลง และ (3) ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจาก CPALL