เด้งตามตลาดต่างประเทศ (17 พ.ค.64)

เด้งตามตลาดต่างประเทศ (17 พ.ค.64)

วันศุกร์ที่ผ่านดัชนีแกว่งตัว Sideway ในแดนบวกสลับลบ ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ๆในการขับเคลื่อนดัชนี

ดัชนีปิดบวกได้เล็กน้อยจากวันก่อนหน้าที่ปรับตัวลงแรง โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,549.48 จุด +1.35 จุด +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 97,360 ลบ.ต่างชาติ -2,259.06 ลบ. TFEX +15,456 สัญญา ตราสารหนี้ -2,947.71 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนี ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 360.68 จุด +1.06% เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นด้วยความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งได้ช่วยบดบังความวิตกในตลาดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ และความกังวลว่า FED จะคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 1.55 ดอลลาร์ +2.4% ปิดที่ 65.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์แนวโน้มอุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
+ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐประกาศผ่อนคลายการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังมีหลักฐานบ่งชี้ว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อไวรัส ขณะผู้ที่ได้รับวัคซีนครบทุกโดสแล้วมีความเสี่ยงต่ำมากที่จะแพร่เชื้อสู่คนอื่น ๆ
+ รมว.สาธารณสุข หนุนภูเก็ตนำร่องเปิดรับนทท.ตามแผน 1 ก.ค. เร่งฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
+ ศบค.ผ่อนคลายมาตรการปรับโซนพื้นที่ใหม่ คงกทม.-นนท์-ปทุมฯ-สมุทรปราการ สีแดงเข้ม และมาตรการผ่อนคลายให้กับร้านอาหารมีผลตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2564

ปัจจัยลบ

- MSCI ปรับลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยลง 0.1%
- ททท.คาดการณ์ต้นปีเกี่ยวกับตลาดท่องเที่ยวในประเทศปี 2564 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยอยู่ที่ 90 ล้านคน-ครั้ง หรือไม่น้อยกว่าปี 63 ที่มีจำนวน 90.52 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 4.82 แสนล้านบาท อาจไม่ได้ตามเป้าหมาย
- นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลให้คำมั่นว่า จะยังคงตอบโต้การโจมตีด้วยจรวดอย่างต่อเนื่องต่อไป ในขณะที่เหตุขัดแย้งกับปาเลสไตน์ในบริเวณเมืองกาซ่าล่วงเข้าสู่วันที่ 7 แล้ว
-สถานการณ์ โควิด-19 (17 พ.ค. 64) ผู้ติดเชื้อรายใหม่ พุ่ง 9,635 ราย ทั้งนี้เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง มากถึง 6,853 ราย ส่งผลให้ติดเชื้อเพิ่มสะสม 111,082 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 25 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 614 ราย และหายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 1,397 ราย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนมีความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ Rebound ขึ้นแรง ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังถูกกดดันจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ปรับตัวสูงขึ้น คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,540-1,565 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 1Q21 เติบโต XO

• หุ้นที่ได้ประโยชน์มาตรการเยียวยาโควิดระลอก 3 CPALL MAKRO CRC COM7 SYNEX CPW
• หุ้นที่เข้าคำนวณ MSCI Global Standard : CBG SCGP หุ้นออก : KBANK-F DTAC
• หุ้นที่เข้าคำนวณ MSCI Global Small Cap : ACE PSL RCL SCCC SINGER SYNEX TTA TOA ไม่มีหุ้นออก
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการผ่อนคลายให้กับร้านอาหาร ZEN M AU

หุ้นรายงานพิเศษ 

                        CPF ราคาเหมาะสม IAA Consensus 41 บาท
                        มาร์จิ้นปรับดีขึ้นต่อเนื่องหนุนผลประกอบการเติบโต

162123052382

•งวด 1Q64 มีกำไรสุทธิ 6,945 ลบ. +14%YoY (หากไม่รวม CTO ที่เพิ่งควบรวมงบการเงินมีกำไร 5,620 ลบ. +24%) แม้ยอดขาย -14%YoY เหลือ 1.19 แสนลบ. แต่ %NP ปรับดีขึ้นเป็น 5.8% จาก 4.4% ใน 1Q63 ส่วน EBITDA margin ปรับดีขึ้นเป็น 16.3% จาก 13.9% ใน 1Q63 Net D/E ลดเหลือ 1.19x จาก 1.25x ณ ปลายปี 63

•บริษัทมีแผนปรับปรุงการผลิตตามเทรนด์กระแสโลก “Plant based Protein” เริ่มจากฐานการผลิตในประเทศไทยขยายสู่จีน ยุโรป ญี่ปุ่น สหรัฐ โดยนำเทคโนโลยีกล้องดิจิตอลมาประยุกต์ใช้ ลดคนเข้าพื้นที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อ ช่วยให้รายได้และกำไรในอนาคตมีเสถียรภาพ

•ผลประกอบการ 2H64 มีแนวโน้มปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากการปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนและการเติบโตของปริมาณขายจากกำลังผลิตหมูเพิ่มขึ้นและการเพิ่มสัดส่วนอาหารแปรรูป และคาดปี 65 จะเห็นผลดีที่ชัดเจนจากการเข้าถือหุ้นกลุ่ม Tesco Lotus ช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายอาหารสดและอาหารแปรรูป

•ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากความสามารถในการทำกำไรที่ปรับดีขึ้นและศักยภาพการเติบโตในอนาคต ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E ระดับ 8.9 เท่าต่ำกว่า P/E กลุ่มที่ระดับ 35 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) GULF (Bloomberg Consensus 39.25 บาท) ส่งซิกไตรมาส 2/64 พีกต่อเนื่อง หลังบุ๊กรายได้โรงไฟฟ้าไอพีพี 1 ขนาด 662.5 เมกะวัตต์เต็มไตรมาส ขณะที่ วินด์ฟาร์มเวียดนามเฟสแรก 30 เมกะวัตต์ เริ่มจ่ายเข้าระบบมิ.ย.นี้ ลั่นรายได้ปี 64 ตามเป้าจากกำลังผลิตติดตั้งเพิ่มอีก 1,500 เมกะวัตต์ ไตรมาส 1/64 พลิกกำไรสุทธิ 1,632 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TOA (Bloomberg Consensus 38.75 บาท) โชว์ไตรมาส 1/64 ทำนิวไฮ กวาดกำไร 670.26 ล้านบาท โต 58.99% หลังค่าใช้จ่ายการขายและบริหารลด ขณะที่ SCI แจ้งกำไรสุทธิลดเหลือ 8.63 ล้านบาท จากต้นทุนขายเพิ่มขึ้น เดินหน้าประมูลงานเพิ่มลุ้นประกาศผล ก.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) GUNKUL (Bloomberg Consensus 4.50 บาท) ประเมินภาพรวมธุรกิจปี 2564 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมรับรู้รายได้จากงาน EPC ที่ตุนไว้ในมือกว่า 8.5 พันล้านบาท เดินหน้าประมูลโครงการใหม่เติมใส่พอร์ต หนุนผลงานปี 2564 โต 20% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DOHOME (Bloomberg Consensus 28.00 บาท) เล็งเปิดเพิ่มอีก 3 สาขาใหม่ กระตุ้นยอดขายช่วงที่เหลือของปีนี้ มองแนวโน้มไตรมาส 2/2564 เติบโตดีต่อเนื่อง ชูสินค้า House Brand ดันสัดส่วนรายได้มาที่ 20% ภายในปี 2565 มั่นใจรายได้ทั้งปีทำนิวไฮแตะ 2 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

17 พ.ค. กำหนดส่งงบ 1Q64 วันสุดท้าย สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 1/64

18 พ.ค. ประชุมครม.

19 พ.ค. เจ้าหนี้ THAI โหวดแผนฟื้นฟูฯ

            กำหนดประชุมคณะกรรมการ กกร.

สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. รายงานยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

สัปดาห์ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

สัปดาห์ที่ 4 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สัปดาห์ที่ 5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

28 พ.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ต่างประเทศ

17 พ.ค. จีนเปิดเผยดัชนีราคาบ้าน การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และอัตราว่างงาน

           สหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค.

18 พ.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผย GDP 1Q64

            อียูเปิดเผยดุลการค้าและ GDP 1Q64

            สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย.

19 พ.ค. อียูเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อ

           สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยรายงานการประชุม 27-28 เม.ย.(เช้า 20 พ.ค.)

20 พ.ค. ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR

           สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิต