พิษโควิด! คนแห่เข้าโรงตึ๊ง

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) ตัวเลขการจํานํา ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงม.ค.- มี.ค. มีมูลค่า 1,370 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะเดือน เม.ย.อยู่ ที่ 426 ล้านบาท

นายชนาธิป ล.วีระพรรค ผู้อํานวยการสํานักงานสถานธนานุบาลกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตัวเลขการจํานํา ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยในช่วงม.ค.- มี.ค. มีมูลค่า 1,370 ล้านบาท ซึ่งเฉพาะเดือน เม.ย.อยู่ ที่ 426 ล้านบาท โดยแนวโน้มการนําทรัพย์มาจําน้ําอยู่ในทิศทางขาขึ้นหลังจากที่เกิดการแพร่ระบาโควิดทําให้พ่อค้า- แม่ค้า ประชาชาชนทั่วไปที่ขาดสภาพคล่องนําทรัพย์มาวางไว้ที่โรงรับจํานํา เพื่อไปใช้จ่ายหรือการค้าขายเป็นจํานวนมาก

สําหรับทรัพย์ที่มาจํานําสูงสุดส่วนใหญ่จะเป็นทองรูปพรรณ สัดส่วน 84% รองลงมา เป็นอัญมณี เพชร พลอย 10% ที่เหลือก็จะเป็นกรอบพระ นาค และทรัพย์ประเภทอื่น ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องมือช่าง โดยทรัพย์จํานําที่แปลก ๆ จะเป็นหม้อก๋วยเตี๋ยว หม้ออลูมิเนียม ถาดอลูมิเนียม และครก เป็นต้น ซึ่งอาจจะเป็น เพราะว่าไม่มีทางเลือกจริง ๆ เลยต้องนําสินทรัพย์ที่มีอยู่มาแปลงเป็นเงินเพื่อใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน

นอกจากนี้ได้จัดสรรวงเงิน 1,500 ล้านบาท รองรับการจํานําในช่วงเปิดเทอม เนื่องจากประชาชน ผู้ปกครอง ต้องเตรียมเงินซื้ออุปกรณ์การเรียนการศึกษาให้กับบุตรหลาน จึงได้จัดโปรโมชั่นต้อนรับเปิดเทอมสําหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษาและผู้ปกครอง โดยคิดดอกเบี้ย 0.50 บาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมาจนถึง 30 มิ.ย.นี้ ให้ วงเงินสูงสุด 100,000 บาท คาดว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครอง ในช่วงเปิดเทอมได้ในระดับหนึ่งโดยผู้ที่จะ เข้ามาใช้บริการนั้น ถ้ามีสินทรัพย์ก็สามารถนํามาจํานําได้ทันทีไม่ต้องเช็กเครดิตบูโร

ทั้งนี้ หากเป็นนักเรียน นักศึกษาจะต้องมีเอกสารบัตรประจําตัวนักเรียน-นักศึกษาหรือใบรับรองจาก สถาบันการศึกษาและต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไปถึงเข้ามาใช้บริการด้วยตนเองได้ ส่วนผู้ปกครองที่ต้องการได้ดอกเบี้ย พิเศษจะต้องนําสูติบัตรหรือสําเนาใบเกิดของบุตรหลานมาแสดงกรณีที่เป็นพ่อ แม่ แต่ถ้าไม่ใช่พ่อแม่ต้องนําเอกสาร เช่น สมุดจดบันทึกประจําตัวนักเรียน เพื่อแสดงฐานะการเป็นผู้ปกครอง

ขณะเดียวกันที่ผ่านมาได้ช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโควิดมาโดยตลอด สําหรับลูกหนี้ที่นําทรัพย์มาจํานํา ก่อนหน้านี้นั้น โรงรับจํานํากทม. ได้ขยายตั๋วรับจํานําให้กับลูกหนี้ จากเดิมกําหนดระยะเวลาการรับจํานําไว้ที่ 4 เดือน 30 วัน ต้องมาไถ่ถอนทรัพย์คืนหากไม่มาไถ่ถอนทรัพย์จะหลุดเป็นของโรงรับจํานํา เพื่อให้ลูกหนี้มีโอกาสมา ไถ่ถอนทรัพย์คืนหลังโควิดคลี่คลาย

เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในช่วงโควิดและทําให้ทรัพย์หลุดจํานําลดน้อยลง" ได้ขยายระยะเวลาตั๋วรับ จํานําของตั๋วรับจํานําตั้งแต่วันที่ 11-31 ก.ค.63 , วันที่ 1-31 ส.ค.63 , วัน ที่ 1-30 ก.ย. 63 , วันที่ 1-31 ต.ค. 63 , วันที่ 1-30 พ.ย. 63 และวันที่ 1-20 ธ.ค.63 ให้สามารถทําธุรกรรมได้ถึงวันที่ 31 พ.ค.64 กรณีที่ประชาชนมีตั๋วรับ จํานําของสถานธนานุบาลตามวันที่ดังกล่าวข้างต้น จะได้รับสิทธิทันที โดยไม่ต้องติดต่อเพื่อขอใช้สิทธิ"

นอกจากนี้ได้ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจรายย่อย และประชาชนทั่วไปให้มีทางเลือกในการหาแหล่งเงินทุน และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคประชาชนให้มีสภาพคล่องในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดังนี้ 1. เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาทคิด อัตราดอกเบี้ย 0.25 บาทต่อเดือน (โดยจํากัดวงเงินรับจํานําไว้ที่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อ 1 คน และต่อสถานธนานุบาล 1 แห่ง) 2. เงินต้น 5,001 - 15,000 บาท อัตราดอกเบี้ย1บาทต่อเดือน 3. เงินต้นเกิน 15,000 บาท ดอกเบี้ย1.25 บาทต่อเดือน เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง ก.ย.นี้