แบรนด์‘HSC’ตั้งเป้าโต100%โกย 450 ล้าน

แบรนด์‘HSC’ตั้งเป้าโต100%โกย 450 ล้าน

อานิสงส์โควิดหนุนเทรนด์ดูแลตัวเองมาแรง "แฮร์ โซลูชั่น" ดันแบรนด์แบรนด์ "HSC" โตสวนตลาด อัดงบบุกออนไลน์ พร้อมเปิดตัว "เจสัน ยัง" แบรนด์แอมบาสเดอร์ย้ำภาพลักษณ์ทันสมัย เจาะลูกค้าอายุ 25-45 ปี

พ.ต.อ.ศตยุ ไชยสุวรรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แฮร์ โซลูชั่น จำกัด ผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมภายใต้แบรนด์ HSC เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมงบการส่งเสริมการตลาดไว้ที่ 10% หรือประมาณ 45 ล้านบาท โดยจะเน้นไปที่การทำการตลาดออนไลน์ เป็นหลัก รวมทั้งการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ (Brand Ambassador) คนใหม่ “เจสัน ยัง” เพื่อสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายช่วงอายุประมาณ 25-45 ปี ได้ และยังเป็นการปรับภาพลักษณ์แบรนด์(Brand Image) ให้ดูทันสมัยอีกด้วย

162099656515

ทั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่เทรนด์ผู้บริโภคคนไทยมีความรักสวยรักงาม และมีเวลาในการดูแลตนเองมากขึ้น ส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจ โดยผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา  บริษัทฯ มีรายได้ 87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% เทียบกับไตรมาสแรก ปี 2563  เป็นรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมภายใต้แบรนด์ HSC ถึง 90% และรายได้จากคลีนิกเวชกรรม 10% 

โดยปี 2564 ตั้งเป้าหมาย 100% มีรายได้ 450 ล้านบาท เพิ่มจาก 225 ล้านบาท ในปี2563 ที่ผ่านมา

นางสาวสุดาพร ไกรวาปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮร์ โซลูชั่น คลีนิก จำกัด กล่าวว่า ได้วางกลยุทธ์ธุรกิจ (Bussiness Strategy) มุ่งเน้นสร้างความแตกต่าง (Differentiation Strategy) ทั้งเรื่องของนวัตกรรมและการบริการที่แตกต่าง 

“ผลิตภัณฑ์ทุกตัวภายใต้แบรนด์ HSC จะผ่านการวิจัยและพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตามนโยบายคุณภาพและความปลอดภัยเป็นสำคัญ รวมทั้งการบริการที่แตกต่าง”

บริษัทฯ ใช้ระบบการให้คำปรึกษาทางออนไลน์กับลูกค้า ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทุกแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์ และเว็บไซต์  รวมถึงลูกค้า สามารถขอคำปรึกษากับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศได้ 

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีตัวแทนจำหน่ายทั้งสิ้น 500 คน ในปี 2564  ตั้งเป้าหมมยรับสมัครตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเป็น 2,000 คน ซึ่งจะส่งผลให้รายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

“เรามีจุดแข็งนอกจากกลุ่มลูกค้ามีอัตราการซื้อซ้ำสูง ยังมีระบบการเทรนนิ่งการตลาดออนไลน์ให้กับตัวแทนจำหน่าย เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย”

ในไตรมาส 2 นี้ บริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในส่วนของ ทีวีช้อปปิ้ง ทั้งทีวีไดเร็คและทรู ช้อปปิ้ง อีกด้วย เพราะยังมีผู้บริโภคอีกจำนวนมากที่ยังนิยมซื้อสินค้าผ่านทีวีช้อปปิ้ง ซึ่งมีโอกาสทางการตลาดสูงจากฐานลูกค้าอายุระหว่าง 35-65 ปี ซึ่งตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ