BAM - ถือ (14 พ.ค.64)

BAM - ถือ (14 พ.ค.64)

ประกอบการ 1Q64: ตํ่าเกินคาดอย่าง

Event

กำไรสุทธิของ BAM ใน 1Q64 อยู่ที่ 247 ล้านบาท (-65% QoQ และ YoY) ต่ำกว่า consensus ประมาณ 10-15% เนื่องจากการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากธุรกจบริหาร NPL ลดลง ทั้งนี้ กำไรสุทธิใน 1Q64 คิดเป็น 12% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

lmpact

รายได้หดตัวลง

รายได้รวมทั้งดอกเบี้ย และไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง 22% QoQ และ 16% YoY ในขณะที่ยอดเงินสดที่ติดตามได้จากทั้ง NPL และ NPA ลดลง 25% QoQ และ 7% YoY เนื่องจากกิจกรรมการปรับโครงสร้างหนี้ชะลอตัวลง ทั้งนี้ในแง่ของรายได้จากการติดตามหนี้อยู่ที่ประมาณ 3 พันล้านบาท (จากเป้าทั้งปีของ
BAM ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท)

Yield และ margin อ่อนแอทั้งคู่

Yield ของสินทรัพย์โดยรวมอยู่ที่ 9% ต่ำกว่าช่วงปกติที่ประมาณ 10-12% ในขณะที่ margin อ่อนแออยู่ที่ 51% (ต่ำกว่าเป้าของ BAM ที่ 57%) ซึ่ง margin ที่ลดลงสะท้อนถึงความสามารถในการดันยอดขายที่ลดลง และอุปสงค์ที่อ่อนแอทางฝั่งผู้ซื้อ

ผลการดำเนินงานใน 1Q64 ต่ำกว่าเป้าที่ BAM ตั้งเอาไว้อย่างมาก

สถานการณ์โรคระบาดกดดันอัตราการเติบโตของธุรกิจตลอดทั้งปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้รายได้จากการติดตามหนี้ของบริษัทอยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท และฉุดให้กำไรสุทธิลดลงอย่างมากในปี 2563 ถึงแม้ว่า BAM จะตั้งเป้าติดตามหนี้ให้ได้ถึง 1.7 หมื่นล้านบาทในปีนี้ และทำให้ margin เพิ่มขึ้นในปีนี้ แต่ผลการ
ดำเนินงานใน 1Q64 กลับแสดงแนวโน้มว่าบริษัทอาจจะไม่สามารทำได้ตามแผนที่วางไว้ในปีนี้ นอกจากนี้ การที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสามน่าจะยังคงส่งผลกระทบกับผลการดำเนินงานใน 2Q64 ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำว่าการเติบโตของ BAM ในปีนี้ไม่น่าจะเป็นไปตามเป้า

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2564/65 ลง 16%/8% และปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ

การปรับประมาณการของเราสะท้อนถึง 1.) การปรับสมมติฐาน yield ของ NPA ปี 2564/65 ลงเหลือปีละ 10% (จากเดิมที่ 12%) และ 2.) การปรับลดสมมติฐาน operating margin เหลือ 53%/57% (จากเดิม 56%/58%) นอกจากนี้ เรายัง de-rate P/BV เหลือ 1.7x (จากเดิมที่ 2.0x) ทำให้ได้ราคาเป้าหมายปี 2565F ใหม่ที่ 22 บาท (ลดลงจากเดิมที่ 26 บาท) ดังนั้น เราจึงปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ

Risks

ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์, มีความต้องการขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพน้อยลง และ marginลดลง