เน้นเลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อหรือผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น  

เน้นเลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อหรือผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น  

ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนจากแรงปรับพอร์ตการลงทุน

วานนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงราว 2% ขณะที่หุ้นไทยเกิดความผันผวนระหว่างวันจนปรับลดลงราว -70 จุด ก่อนฟื้นตัวขึ้นมาเหลือ -23 จุด โดยหลักมากจาก 1) ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เงินเฟ้ออาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับการดำเนินนโยบายทางการเงินเร็วขึ้น 2) การปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนสถาบันทั่วโลก โดยลดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่มี Valuation แพง และเพิ่มน้ำหนักหุ้นที่สามารถรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ 3) ความกังวลเกี่ยวกับข่าวลือบางประการในตลาด 4) ความกังวลเกี่ยวกับการตรวจสอบธุรกรรม Blocktrade หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของกลุ่มเจ้าหน้าที่การตลาดและระบบควบคุมความเสี่ยงของบล.บางแห่ง

แม้ตลาดอาจผันผวนจากความกังวลเงินเฟ้อในระยะสั้น แต่ความเคลื่อนไหวในตลาดพันธบัตรยังบ่งชี้ถึงเสถียรภาพของสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งแปลว่าความผันผวนโดยรวมน่าจะมาจากการปรับพอร์ตของนักลงทุน มากกว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างฉับพลันของธนาคารกลาง ซึ่งหุ้นที่สามารถรับมือเงินเฟ้อ ได้แก่ 1) กลุ่มที่สินค้าโภคภัณฑ์หรือที่ปรับค่าบริการขึ้นได้ตามเงินเฟ้อ 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น 3) หุ้นที่ valuation ไม่แพง และ 4) หุ้นที่ผลการดำเนินงานโดยรวมยังคงมีการเติบโตเชิงโครงสร้างที่เร็วกว่าตลาด ซึ่งหุ้นที่เราชอบจะกระจายไปในหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ประกัน  ขนส่ง อาหาร พลังงานทดแทน ได้แก่ PTT, IRPC, SCGP, SFT, PTL, TIP, BLA,  JWD, WICE, PTG, EPG, SUPER, TNP, EASTW เป็นต้น

กลยุทธ์ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัวในธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, IRPC 2) อาหารและเกษตร TVO, CPI, TU, CPF 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP และ KK เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE 5) งบไตรมาส 1/64 โดดเด่น ได้แก่ SCC, BANPU, SUPER, TVO, PTT, FTREIT, WHART, EASTW, WHAUP, PTG 6) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM 7) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP

ภาพรวมกลยุทธ์ ลุ้นกลับมายืนเหนือ 1550  จุด เพื่อรักษาโมเมนตัมการเก็งกำไรเชิงบวก เน้นเลือกหุ้นรายตัวที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ โดยยังคงคำแนะนำไม่ไล่ราคาในหุ้นที่ปรับขึ้นมาก // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร PTT*, PTG*, TIP*, SUPER*

แนวรับ 1,520-1,540 / แนวต้าน : 1,560-1,585 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุน

รองประธานเฟดคลายวิตกเงินเฟ้อ. นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานเฟดยืนยันว่า ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในเดือน เม.ย. จะไม่ส่งผลให้เฟดเปลี่ยนแปลงแนวทางการสนับสนุนเศรษฐกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังระบุว่าเฟดจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน

ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ต่ำสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 63. สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Jobless Claims) ลดลง 473,000 ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือน มี.ค. 63

บิตคอยน์ดิ่งแรง 10%. หลังกระทรวงยุติธรรม-กรมสรรพากร ของสหรัฐฯ เตรียมเข้าสอบสวนบริษัท Binance Holdings ฐานมีความเสี่ยงพัวพันการฟอกเงินและการหลบเลี่ยงภาษี กดราคาบิตคอยน์ดิ่งแรงกว่า 10%

PTT. โชว์กำไรไตรมาส 1/64 พลิกเป็นกำไร 3.3 หมื่นลบ. ยอดขายในทุกกลุ่มธุรกิจฟื้นตัว พร้อมบันทึกกำไรสต๊อกน้ำมัน 1.2 หมื่นลบ. ขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีโตรับเศรษฐกิจฟื้นตัว

JMART. กำไรไตรมาส 1/64 โตแรง 218% ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ เคาะปันผลพิเศษ 0.15 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่ 25 พ.ค. นี้ พ่วงออกวอร์แรนต์ JMART-W5 อายุ 4 ปี ราคาใช้สิทธิ 70 บาท

MSCI Rebalancing ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยลงเหลือ 1.73% จาก 1.83% คิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คาดส่งผลกระทบต่อหุ้นที่ถูกปรับออกจากการคำนวณดัชนี และถูกลดน้ำหนัก ได้แก่ (ถูกปรับออก) KBANK-F, DTAC / (ถูกลดน้ำหนัก) PTT, KBANK, INTUCH, CPN, SCC, CPALL, EGCO, TU อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวจะเป็นโอกาสเข้าเก็งกำไรหุ้นที่ถูกนำเข้าคำนวณ และเพิ่มน้ำหนัก ได้แก่ (ถูกนำเข้า) SCGP, CBG / (ถูกเพิ่มน้ำหนัก) OSP, KTC, STGT, BH

ประเด็นติดตาม: - 14 พ.ค.: US Reteail Sales เดือน เม.ย., 17 พ.ค.: TH GDP 1Q21

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)