DOHOME - ซื้อ (12 พ.ค.64)

DOHOME - ซื้อ (12 พ.ค.64)

ผลประกอบการ 1Q64: กำไรดีเกินคาดอย่างมาก

Event

กำไรสุทธิของ DOHOME ใน 1Q64 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 543 ล้านบาท (+206% YoY และ +152%QoQ) ดีกว่าที่เราคาดไว้ถึง 76% และดีกว่าประมารการของนักวิเคราะห์ในตลาด 30% เนื่องจากทั้งยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าที่คาดไว้ โดยกำไรสุทธิใน 1Q64 คิดเป็น 50% ของประมาณการ
กำไรปีนี้ของเรา

lmpact

SSSG ใน 1Q64 แข็งแกร่งที่ 22.5%


ยอดขายของ DOHOME ใน 1Q64 อยู่ที่ 6.1 พันล้านบาท (+34% YoY และ +26% QoQ) จากยอดขายของทั้งสาขาเดิม และสาขาที่เปิดใหม่ โดยยอดขายใน 1Q64 ดีกว่าที่เราคาดไว้ 23% และคิดเป็น 28%ของประมาณการยอดขายปีนี้ของเรา ในขณะที่ SSSG ใน 1Q64 อยู่ที่ 22.5% ดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 18%(จาก -9.9% ใน 1Q63, +3.9% ใน 4Q63 และสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 5%) ทั้งนี้ DOHOME เปิดสาขาใหม่ 2 ร้านใน 1Q64 (Size L ที่แหลมฉบัง และ Dohome to GO ที่ตลาดทับยาว) ทำให้จำนวนสาขาทั้งหมดเพิ่มเป็น 25 ร้าน (Size L, XL 13 ร้าน และ Dohome To Go 12 ร้าน)

อัตรากำไรขั้นต้นดีมากเช่นกัน

อัตรากำไรขั้นต้นใน 1Q64 เพิ่มขึ้นเป็น 21.7% (+6.2ppts YoY และ +4.2ppts QoQ) จาก margin ที่เพิ่มขึ้นของสินค้าทุกกลุ่ม รวมถึงการใช้กลยุทธ์เน้นจำหน่ายสินค้า house brand ด้วย (ดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 19.9% และดีกว่าสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 17.6%) ในขณะที่สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายลดลงเหลือ 9.9% จาก 10.1% ใน 1Q63 และ 11.7% ใน 4Q63

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564-65 ขึ้นอีกประมาณ 70%

เราคาดว่าราคาเหล็กน่าจะยังคงอยู่ในขาขึ้นต่อเนื่องตามอุปสงค์จากจีนที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่มีการใช้มาตรการกระตุ้นการนำเข้าเหล็กเพื่อลดการผลิตเหล็กในประเทศลง เรามองว่าประเด็นนี้จะทำให้ SSSG และอัตรากำไรขั้นต้นของ DOHOME มี upside เพิ่มอีก ดังนั้น เราจึงปรับสมมติฐานดังต่อไปนี้ i) ปรับ
เพิ่มสมมติฐาน SSSG ปี 2564 จากเดิม 5% เป็น 12% ii) ปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2564-65 ขึ้นอีก 3.8-3.1ppts ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2564-65 ของเราเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 70%

Valuation & Action

เรา re-rate PER จากเดิม 36.0x (ค่าเฉลี่ยของ Siam Global House (GLOBAL.BK/GLOBAL TB)* และ Home Product Center (HMPRO.BK/HMPRO TB)* +1.0 S.D.) เป็น 38.0X (+1.5 S.D.) เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มกำไรปีนี้ที่คาดว่าจะโตถึง 136%, อานิสงส์จากการที่ราคาเหล็กอยู่ในระดับสูง, และได้รับผลกระทบน้อยมากจากการที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกใหม่ นอกจากนี้ เรายังปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 จากเดิม 19.20 บาท เป็น 34.00 บาท และปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ขยายสาขาได้ต่ำน้อยที่วางแผนเอาไว้, ราคาพืชผลอ่อนแอ, ภัยธรรมชาติ, สินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น, ความนิยมของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป และกระแสตลาด