หุ้นร่วง 13.37 จุด กังวลเงินเฟ้อ-MSCI ลดน้ำหนักไทย
ดัชนีหุ้นวันนี้ (12 พ.ค.) ปิดตลาดภาคเช้าร่วง 13.37 จุด ปิดที่ 1,565.56 จุด สารพัดปัจจัยกดดันลงทุน กังวลภาวะเงินเฟ้อหนุน "เฟด" ขึ้นดอกเบี้ย ดัชนี MSCI ปรับลงน้ำหนักหุ้นไทย รวมถึงหุ้น DELTA ทำภาวะตลาดผันผวน โบรกฯ มองกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ 1,550-1,600 จุด
ดัชนีหุ้นไทยช่วงเช้าวันนี้ (12 พ.ค.2564) ปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,565.56 จุด ลดลง 13.37 จุด หรือลดลง 0.85% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 60,946.28 ล้านบาท ระหว่างทางปรับลงทำจุดต่ำสุดที่ 1,557.94 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยแกว่งลบตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค และทิศทางตลาดหุ้นโลก จากความกังวลตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐที่ร้อนแรง ประกอบกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ
โดยคืนนี้จะต้องติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ปรับขึ้น 3.6% จากปีก่อน เป็นความเสี่ยงต่อการให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจพิจารณาดึงสภาพคล่องออกจากระบบ (QE Tapering) และปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้
"ในภาวะแบบนี้ทำให้เกิดแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยิลด์) กลับมาทะลุ 1.6% อีกครั้ง และหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตสูง (Growth Stock) โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีเผชิญแรงขายอย่างรุนแรง สะท้อนจากตลาดหุ้นไต้หวันที่ปรับลงราว 5% เพราะมีสัดส่วนหุ้นเทคเยอะ กดดันการลงทุนตลาดหุ้นภูมิภาค"
นอกจากนี้ การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI เป็นอีกความเสี่ยงสำคัญที่กดดันตลาดหุ้นไทย เพราะคาดว่าจะมีกระแสเงินไหลออกประมาณ 400-600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่หุ้นไทยส่วนใหญ่ถูกปรับลดน้ำหนักมากกว่าเพิ่มน้ำหนัก โดยเฉพาะหุ้นธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ปรับลง 4% หลังจาก KBANK-F ถูกถอดออกจากดัชนี
ขณะที่กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีสัปดาห์ที่เหลือ (12-14 พ.ค.) ประเมินแนวรับที่ 1,550 จุด และแนวต้านที่ 1,580-1,600 จุด โดยจะต้องติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด รวมถึงการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติต่อเนื่องตลอด 1-2 ต่อจากนี้ รวมถึงความผันผวนของราคาหุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) ที่สภาพคล่องสูง แต่ฟรีโฟลทต่ำ ซึ่งอาจทำให้ทิศทางตลาดเคลื่อนไหวผิดปกติ
