กังวลเงินเฟ้อสหรัฐ (12 พ.ค. 64)

กังวลเงินเฟ้อสหรัฐ (12 พ.ค. 64)

วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีตลาดปรับตัวลง เป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค และตลาดหุ้นต่างประเทศ จากความกังวลตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่จะรายงาน

ประกอบกับปัจจัยภายในตลาดหุ้นไทย มีแรงขายหุ้นในบริษัทที่รายงานผลประกอบการออกมาต่่ากว่าคาด ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,578.93 จุด -9.22 จุด -0.58% มูลค่าการซื้อขาย 102,358 ลบ.ต่างชาติ -2,023.98 ลบ. TFEX +11,972 สัญญา ตราสารหนี้ +139.61 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ +0.6% ปิดที่ 65.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้ปัจจัยหนุนจากท่อส่งน้ำมันของบริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ในสหรัฐ ถูกโจมตีทางไซเบอร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ ซึ่ง EIA จะเปิดเผยในวันนี้
+ จีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) มาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ +0.9%YoY ดีกว่าในเดือนมี.ค.ที่ +0.4%YoY และเปิดเผย ดัชนี PPI มาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน +6.8%YoY ในเดือนเม.ย. เป็นการขยายตัวเร็วที่สุดในรอบ 3 ปีครึ่ง จาก +4.4% ในเดือนมี.ค.
+ ครม.อนุมัติเพิ่มเงินโครงการเราชนะ และ เรารักกัน อีก 1,000 บาทเป็นเวลา 2 สัปดาห์
+ กทม. เผยหลายคลัสเตอร์มีแนวโน้มควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้

ปัจจัยลบ

- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 473.66 จุด -1.36% กังวลว่าภาวะเงินเฟ้อจะทวีความรุนแรงขึ้นหลังมีการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน พุ่งขึ้น 8% สู่ระดับ 8.12 ล้านตำแหน่งในเดือนมี.ค. สูงสุดเป็นประวัติการณ์ บ่งชี้ถึงภาวะขาดแคลนแรงงานในสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI เดือนเม.ย.ของสหรัฐในวันนี้
- บริษัทโนวาแวกซ์ อิงค์ของสหรัฐเลื่อนก่าหนดเวลาผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง และคาดว่าจะไม่สามารถยื่นขออนุมัติการใช้งานจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐ อังกฤษ และยุโรปได้จนกว่าจะถึง 3Q64
- ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนเม.ย.64 (TCC-CI) รายงานผลสำรวจความคิดเห็นของภาคธุรกิจและหอการค้าทั่วประเทศเดือนเม.ย.ลดลงทุกภาคของประเทศ จากโควิดรอบ 3 ทำให้รายได้ลด-กำลังซื้อหด
- สธ.ห่วงต่างด้าวลอบเข้าเมืองแพร่เชื้อ ขอเข้มมาตรการป้องกันส่วนบุคคลหลังพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยนักลงุทนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อมากขึ้นหลังตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน พุ่งสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บ่งชี้ถึงภาวะขาดแคลนแรงงานในสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI เดือนเม.ย.ของสหรัฐในวันนี้ มองกรอบการเคลื่อนไหวในวันนี้ที่ 1,560-1,595 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่คาดว่าผลประกอบการ 1Q21 เติบโต WICE XO ICN SKN

• หุ้นที่ได้ประโยชน์มาตรการเยียวยาโควิดระลอก 3 CPALL MAKRO CRC COM7 SYNEX CPW
• หุ้นที่เข้าคำนวณ MSCI Global Standard : CBG SCGP หุ้นออก : KBANK-F DTAC
• หุ้นที่เข้าคำนวณ MSCI Global Small Cap : ACE PSL RCL SCCC SINGER SYNEX TTA TOA ไม่มีหุ้นออก

หุ้นรายงานพิเศษ

                      TOP (Bloomberg Consensus 64.67)

           รายงานกำไร 1Q64 ที่ 3.36 พันลบ. สูงกว่าที่ตลาดคาด 31%

162079574319

•TOP (Bloomberg Consensus 64.67) รายงานกำไร 1Q64 ที่ 3.36 พันลบ. สูงกว่าที่ตลาดคาด 31% เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY แต่หดตัว 54%QoQ โดยธุรกิจโรงกลั่นได้แรงหนุนจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวขึ้นจาก 0.5$/bbl จากไตรมาสก่อนสู่ 4.1$/bbl อีกทั้งได้แรงหนุนจาก Stock gain 4.66 พันลบ.จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน 15.4$/bbl สู่ 60$/bbl อย่างไรก็ตามมีผลขาดทุนจากค่าเงิน 2.6 พันลบ.

•ความเห็น เรามีมุมมอง Neutral ต่อผลประกอบการ TOP หลัง GRM ยังทรงตัวในระดับต่ำที่ 1$/bbl แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นจาก 60$/bbl สู่ 67$/bbl ในไตรมาส 2/64 แต่ยังน้อยกว่าในไตรมาส 1/64 เราจึงแนะนำให้เปลี่ยนจากกลุ่มโรงกลั่นไปเป็นกลุ่มปิโตรเคมี IRPV IRPC ที่ได้ผลบวกตามราคาน้ำมัน

หุ้นมีข่าว

IRPC (Bloomberg Consensus 4.2) รายงานกำไร 1Q64 ที่ 5.58 พันลบ. เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ +247%QoQ และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY โดยได้แรงหนุนหลักจากกำไรจากสต็อกน้ำมันดิบราว 5 พันลบ. ขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นยังทรงตัวในระดับต่ำตามค่าการกลั่นที่เคลื่อนไหวที่ 1$/bbl และธุรกิจปิโตรเคมียังทรงตัวแม้ว่าราคาผลิตภัณฑ์จะปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันแต่ต้นทุนการผลิตก็ปรับตัวขึ้นตามไปด้วย

ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q64 จะอ่อนตัวลงเนื่องจากคาดว่ากำไรจาสต็อกน้ำมันจะลดลงจากไตรมาส 1 หลังราคาน้ำมันเริ่มชะลอการปรับตัวขึ้น ขณะที่การทำกำไรของธุรกิจปิโตรเคมีอาจอ่อนตัวตามต้นทุนที่สูงขึ้น จึงแนะนำให้ลงทุนใน PTTGC แทน

(+) ACE (Bloomberg Consensus 4.80 บาท) ชนะการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชน 2 โครงการในพื้นที่ อบต.เชียงหวาง จ.อุดรธานี และ อบต.โชคชัย จ.นครราชสีมา กำลังการผลิตติดตั้งแห่งละ 9.9 MW รวม 19.8 MW คาดสร้างรายได้การขายไฟฟ้าเพิ่มปีละ 380 ล้านบาทต่อแห่งนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SABUY (Bloomberg Consensus 4.00 บาท) ผนึกพาร์ตเนอร์รายใหญ่ รุกธุรกิจนายหน้าประกันภัย พร้อมปล่อยสินเชื่อหมุนเวียนธุรกิจ ผู้บริหาร "ชูเกียรติ รุจนพรพจี" วางเกมปีนี้ปิดดีลครบ 10 ดีลตามแผน เผยกำไรโค้งแรกโต 14.55% ไม่หวั่นแม้ประเทศเจอภาวะโควิด สั่งรัดเข็มขัดกดต้นทุนลดฮวบ มั่นใจผลงานมาตามนัด โต 25% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) LEO (Bloomberg Consensus 7.05 บาท) เซ็นสัญญา "China Post" รัฐวิสาหกิจไปรษณีย์ประเทศจีน ลุยขนส่งสินค้า E-commerce ระหว่างไทย-จีน พร้อมเตรียมปรับเป้ารายได้ปี 64 เพิ่มเท่าตัวเป็นไม่ต่ำกว่า 40-45% จากเดิม 20-25% แย้มอยู่ระหว่างเจรจาดีลใหม่เพิ่ม คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้อย่างน้อย 1 ดีล (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ 

12 พ.ค. เจ้าหนี้โหวตแผนฟื้นฟู THAI

17 พ.ค. บจ.ส่งงบ 1Q64 วันสุดท้าย สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 1/64

สัปดาห์ที่ 3 ประชุมคณะกรรมการ กกร.

สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. รายงานยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์

สัปดาห์ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า

สัปดาห์ที่ 4 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สัปดาห์ที่ 5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

28 พ.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ต่างประเทศ

12 พ.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนเม.ย.

           อียูเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรม มี.ค.

           สหรัฐเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

13 พ.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.

14 พ.ค. สหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีก ราคานำเข้าและส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรม สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.