สธ.เตรียมลุยฉีด'วัคซีนโควิด19"พื้นที่กทม. 7.5 ล้านคน

สธ.เตรียมลุยฉีด'วัคซีนโควิด19"พื้นที่กทม. 7.5 ล้านคน

สธ.เตรียมลุยฉีดวัคซีนโควิด19พื้นที่กทม. 7.5 ล้านคน รวมแรงงานต่างด้าว จัด 4 รูปแบบการฉีด ตั้งเป้าฉีดครอบคลุม5 ล้านคน หรือ 70%ของประชากร เผยพ.ค.วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าส่งมอบก่อน 1 ล้านโดส ส่วนมิ.ย.มีราว 10 ล้านโดส

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เวลา 16.30 น.ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 ว่า เบื้องต้นที่ประชุมจะมีการปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่กทม. และพื้นที่มีการระบาด ไม่ต้องรอดีเดย์ พร้อมแล้วฉีดเลย และล่าสุดกระทรวงคมนาคม จะสนับสนุนพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่ มีระบบระบายอากาศดี มีที่จอดรถ และการคมนาคมสะดวก ให้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีน ตรงนี้ สธ.ก็จะมีการพิจารณา
"ส่วนการฉีดวัคซีนในพื้นที่อื่นสามารถลงทะเบียนผ่านไลน์และแอพพลิเคชั่น "หมอพร้อม" หรือติดต่อผ่าน อสม. หรือโทรศัพท์ไปที่โรงพยาบาลเพื่อจองคิวรับวัคซีนได้ ทั้งนี้วันที่ 13 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะไปตรวจเยี่ยมสถานที่ฉีดวัคซีนที่อาคารจามจุรีสแควร์ด้วย"นายอนุทินกล่าว

ต่อมาเวลา 17.30 น. นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด 19 เปิดเผยภายหลังการประชุมอนุกรรมการบริหารจัดการวัคซีนฯ ว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปว่ามั่นใจว่าจะมีวัคซีนเข้ามาจำนวนมากประมาณ 10 ล้านโดสในเดือน มิ.ย. ดังนั้นจะต้องมีการฉีดให้ประชาชนอย่างทั่วถึง โดยมีการฉีดหลายรูปแบบ คือ 1.การฉีดในสถานพยาบาล 2. ฉีดในสถานที่อื่นๆ เช่น ศูนย์การค้า ยิมเนเซียม 3.การฉีดด้วยรถให้บริการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ รุกเข้าไปในพื้นที่ เช่น ตลาด ชุมชน ผู้ป่วยติดเตียง และ4. ให้แต่ละองค์กรดำเนินการจัดฉีดเอง เช่น ทหาร ตำรวจ ที่มีรพ. หรือโรงงานที่มีรพ.ประกันสังคมอยู่แล้ว ทั้งนี้การฉีดไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดต้องมีการเฝ้าระวังสังเกตอาการ 30 นาที เช่นเดิม

สำหรับพื้นที่กทม. มีการพิจารณาว่าน่าจะใช้วัคซีนประมาณ 7.5 ล้านโดสสำหรับฉีดเข็มแรก ให้กับประชากร 7.5 ล้านคน ฉีดครอบคลุมประชากรทุกคนในพื้นที่ รวมถึงแรงงานต่างด้าวกว่า 2 ล้านคนด้วย ซึ่งกรณีแรงงานต่างด้าวจะไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นแรงงานถูกกฎหมาย หรือผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จากจำนวน 7.5 ล้านโดสนี้ ตั้งเป้าว่าจะต้องฉีดให้ได้อย่างน้อย 70% หรือประมาณ 5 ล้านคน (5 ล้านโดส) ทั้งนี้ ปัจจุบันกทม. ฉีดวัคซีนไปแล้ว 5 % ของประชากร เบื้องต้นภายในเดือนพ.ค.จะมีวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าเข้ามาก่อนประมาณ 1 ล้านโดส แต่ยังระบุวันที่ชัดเจนไม่ได้ ก็จะถูกนำมาใช้ในพื้นที่การระบาด
" วัคซีนที่เรามีอยู่ไม่ว่าตัวไหนก็ตามสามารถฉีดได้หมดเพราะสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ ส่วนต่างจังหวัดจะกระจายวัคซีนลงไปให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดดำเนินการกระจายต่อไป"นพ.โสภณกล่าว

เมื่อถามว่าขณะนี้ประชาชนมีการเลือกที่จะรอวัคซีนในรอบหลังๆ เพราะคิดว่าจะได้รับวัคซีนของแอสตร้าฯ นพ.โสภณ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าวัคซีนที่มีทุกตัวสามารถฉีดแล้วกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ ซิโนแวคเองมีการฉีดในพื้นที่ภูเก็ต แม่สอด รวมถึงสมุทรสาครก็พบว่าได้ผลดี ดังนั้นวัคซีนที่ดีคือฉีดให้เร็วที่สุดเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ป้องกันตัวเอง ป้องกันชุมชน และป้องกันประเทศชาติ วัคซีนจะช่วยให้เราปิดจบการระบาดโควิด-19 ได้เร็ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับประชากรกรุงเทพฯตามทะเบียนราษฎร์จำนวน 5,583,601 คนประชากรแฝง 2,053,508 คน รวม 7,637,109 คน หากคิดเป็น 70%ของประชากรจะอยู่ที่ 5,345,977 คน