ททท.ลุ้นแผน ‘กระจายวัคซีน’ ทางรอดท่องเที่ยวไทย

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) ททท.ลุ้นแผน ‘กระจายวัคซีน’ ทางรอดท่องเที่ยวไทย ลุย ‘ภูเก็ต’ เปิดรับนทท. 1 ก.ค. ร่วมพูดคุยกับคุณยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการฟื้นฟูการท่องเที่ยว เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมกับมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเพื่อดำเนินการตามแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ มอบหมายกระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมและประสานรวบรวมจำนวนวัคซีนโควิด-19 ให้กับพื้นที่ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว 10 พื้นที่ กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาการจัดสรรวัคซีน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เตรียมความพร้อมด้านการตลาด และให้สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เพื่อพิจารณาการจัดสรรวัคซีน

สำหรับแนวทางการเปิดประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวนี้ ได้กำหนดช่วงดำเนินการเป็น 4 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 นำร่อง 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 64 เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีน มีใบรับรองการฉีดวัคซีน และกักตัวตามระยะเวลาที่ ศบค.กำหนด
ระยะที่ 2 Phuket Sandbox 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 64 เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว มีใบรับรองการฉีดวัคซีน เข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตโดยไม่มีการกักตัว
ระยะที่ 3 ผ่อนคลายในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค. 64 เป็นต้นไป รับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีน และมีใบรับรองการฉีดวัคซีน ขยายพื้นที่ไปยังจังหวัดกระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ชลบุรี บุรีรัมย์ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพฯ โดยไม่ต้องกักตัว
ระยะที่ 4 เข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 เป็นต้นไป เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว และมีใบรับรองการฉีดวัคซีนเข้ามายังทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว

ส่วนการประเมินพื้นที่ศักยภาพ 10 แห่งเพื่อดำเนินการนั้น ได้เลือกพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และบางส่วนของจังหวัดกระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ และบางส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากจะมีการจัดการแข่งขันวิ่งภูเขาและวิ่งเทรลชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 11 – 14 พ.ย. 2564

สำหรับจังหวัดชลบุรี ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ และพื้นที่เชื่อมโยงกรุงเทพฯ ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งพักผ่อนที่สำคัญของทั้งชาวไทยและต่างชาติ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ส่วนจังหวัดเพชรบุรี เป็นพื้นที่เชื่อมโยงกับกรุงเทพฯ และประจวบคีรีขันธ์ สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ จะมีการจัดการแข่งขันกีฬาหลายรายการ เช่น โมโต จีพี ในเดือนต.ค. 2564 ขณะที่กรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นจุดหลายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักที่จะทำให้การดำเนินการตามแผนสำเร็จได้คือ ประชาชนและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในทุกพื้นที่จะต้องได้รับวัคซีนไม่ต่ำกว่า 70% ที่ประชุมจึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานเพื่อเตรียมความพร้อมการกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้เป็นไปตามแผน

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมก็ได้เห็นชอบในการสนับสนุนและผลักดันให้ดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่บุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยให้ถือว่าเป็นบุคลากรกรด่านหน้าที่ต้องได้รับวัคซีนโดยเร็วในทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรองรับนโยบายเปิดประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งประชาชน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ทั้งนี้ ภายใต้แผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวนี้ หากสามารถดำเนินการใน 10 จังหวัดได้ตามแผน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย 3,500,000 คน และสร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 298,192 ล้านบาท แยกเป็น เดินทางเข้ามาสร้างรายได้ของจังหวัดภูเก็ต 1,096,699 คน สร้างรายได้ 122,046 ล้านบาท เป็นการเดินทางเข้ามาและสร้างรายได้ให้กับ 9 จังหวัด 2,403,301 คน สร้างรายได้ 176,146 ล้านบาท

ที่ประชุมได้ยังเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการแต่งตั้งและการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวประจำเขตการท่องเที่ยว พ.ศ. 2564 ซึ่งเป็นประกาศการกำหนดองค์ประกอบและวิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวแต่ละเขต ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 9 เขต และอยู่ระหว่างขั้นตอนการประกาศเพิ่มอีก 6 เขต โดยรายละเอียดของประกาศ จะครอบคลุมภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีคุณสมบัติที่เหมาะสม ตลอดจนกำหนดขอบเขตอำนาจ ซึ่งจะทำให้คณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวในแต่ละเขต มีบทบาทผลักดันการท่องเที่ยวเชิงพื้นที่ให้ชัดเจน ทั้งในแง่การรักษา ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว การบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ สนับสนุนให้รายได้ที่เกิดจากภาคท่องเที่ยว กระจายลงไปยังท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม