'พิชัย' เตือน 'ประยุทธ์' อุ้ม 'ธรรมนัส' ประชาคมโลกหมดความเชื่อถือ

       นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงดัชนีความมั่นใจของผู้บริโภคล่าสุด ว่าอยู่ที่ 46% ถือว่าต่ำสุดในรอบ 22 ปี 7 เดือน ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ใน 6 เดือนแรก คือ กันยายน ถึง มีนาคม พลาดเป้ากว่า 1.22 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 10.7% ขณะที่หนี้เสียในระบบธนาคารมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 4.68 แสนล้านบาท และจากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละ 2,000 คน สะสมกว่า 5.4หมื่นคน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 305 ราย ทั้งนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะเป็นปัญหาหนักของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แม้จะประกาศจัดหาวัคซีนเพิ่ม 200 ล้านโดส แต่ไม่ได้สร้างความมั่นใจให้ประชาชน  เพราะรัฐบาลไม่แจ้งถึงวันที่นำเข้าและระยะเวลาฉีดให้ประชาชน 

         "ภาวะที่เศรษฐกิจทรุดหนัก การระบาดของไวรัสยังรุนแรง ความเชื่อมั่นของรัฐบาลเสื่อมถอยหนักในทุกด้าน ประเทศจำเป็นจะต้องมีผู้นำคนใหม่ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง และกล้าตัดสินใจ อีกทั้งยังต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งคนในประเทศและต่างประเทศได้ พร้อมทั้งต้องมีแนวคิดที่ทันสมัยไม่ยึดติดกับกรอบคิดเดิมๆ จึงจะสามารถนำพาประเทศให้เจริญรุ่งเรืองรอดพ้นจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ได้" นายพิชัย กล่าว

       นายพิชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในคดีของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช. เกษตรและสหกรณ์ สร้างกระแสความไม่พอใจ เพราะมีรัฐมนตรีที่เคยมีคดียาเสพติดและเคยรับโทษในต่างประเทศดำรงตำแหน่งได้ ตนขอเตือนพล.อ.ประยุทธ์ ว่า หากให้ร.อ.ธรรมนัสอยู่ในตำแหน่ง จะทำลายความน่าเชื่อถือและความมั่นใจของประเทศไทย  ไม่ต่างจากสมัยที่นายปาโบล เอสโกบาร์ราชายาเสพติดชาวโคลอมเบียลงเลือกตั้งและหวังจะเป็นผู้นำประเทศโคลอมเบีย ซึ่งถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากนานาชาติ.