TIDLOR เทรดวันแรกลุ้นเหนือจอง โบรกฯ เคาะราคาเป้าหมายปีนี้ 43 บาท

TIDLOR เทรดวันแรกลุ้นเหนือจอง โบรกฯ เคาะราคาเป้าหมายปีนี้ 43 บาท

วันนี้ (10 พ.ค.) หุ้น “เงินติดล้อ” เทรดวันแรก “บล.ยูโอบีฯ” คาดพุ่งแรงเหนือราคาจอง 36.50 บาท ทะลุเป้าหมายปีนี้ที่ 43.00 บาท “บล.หยวนต้า” เชื่อราคาบวกมากกว่า 10% จากแนวโน้มธุรกิจสดใส “บล.โนมูระฯ” ลุ้นมาร์เก็ตแคปปรับขึ้นแตะ 1.8 แสนล้าน ลัดคิวเข้า SET50

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ (10 พ.ค.) เป็นวันแรก ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 1,043.54 ล้านหุ้น​ (รวมหุ้นส่วนเกิน) ที่ราคาจองซื้อสูงสุด 36.50 บาทต่อหุ้น

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คาดราคาหุ้น TIDLOR ปรับขึ้นเหนือจองวันแรกที่เข้าซื้อขาย รวมถึงคาดราคาหุ้นในช่วงแรกจะปรับขึ้นต่อเนื่องดีกว่าราคาเหมาะสมที่ฝ่ายวิจัยให้ไว้ที่ 43.00 บาทต่อหุ้น ตามทิศทางหุ้น IPO ตัวอื่นๆ ที่ราคามักจะปรับขึ้นเกินปัจจัยพื้นฐาน

อย่างไรก็ดี TIDLOR ถือเป็นหุ้นไฟแนนซ์ที่มีความแข็งแกร่งเทียบกับคู่แข่ง โดยมีอัตราตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (Loan Loss Coverage Ratio) สูงสุดในอุตสาหกรรมที่ 325% ณ สิ้นปี 2563 ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 1.7% ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่ 1.9%

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2564 คาดกำไรสุทธิเติบโต 19% อยู่ที่ 2,867 ล้านบาท โดยปัจจัยหนุนการเติบโตของสินเชื่อ 17% ตามทิศทางอุตสาหกรรมและการเปิดสาขาใหม่ รวมถึงได้ปัจจัยหนุนจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่บริษัทคาดเติบโต 40%

สำหรับกลยุทธ์ลงทุน แนะนำระมัดระวังในการซื้อขายวันแรก เพราะคาดราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นสูงจากความต้องการซื้อที่ล้นหลาม อีกทั้งในแง่ของมูลค่าราคาเหมาะสม 43.00 บาท จะมีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E) ในปีนี้ที่ 33.1 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 27.1 เท่า

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น TIDLOR มีโอกาสปรับขึ้นจากราคาจองซื้อ เพราะอยู่ในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ซึ่งนักลงทุนให้มูลค่าสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ (พรีเมียม) อีกทั้งได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยต่ำ นอกจากนี้ เศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ส่งผลให้ประชาชนมีความต้องการใช้เงินด่วนมากขึ้น

“ด้วยความที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ดีคาด TIDLOR จะประสบความสำเร็จในการเข้าเทรดวันแรก แม้จำนวนหุ้นจะเยอะ และมีขนาดมาร์เก็ตแคปใหญ่ แต่คาดราคาหุ้นจะปรับขึ้นมากกว่า 10% หรือมากกว่าการปรับขึ้นของหุ้น IPO ตัวล่าสุดอย่าง บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) ที่เข้าเทรดเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจได้รับผลกระทบโควิด-19”

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ธุรกิจจำนำทะเบียนของ TIDLOR ได้ประโยชน์จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ช้า และคาดว่าในระยะอีก 3 ปีข้างหน้าจะยังสามารถเติบโตต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดี P/E ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรม จึงแนะนำนักลงทุนพิจารณาความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในปีนี้ก่อนตัดสินใจลงทุน

ส่วนโอกาสการเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ด้วยเกฑณ์พิเศษ (Fast Track) ประเมินว่าค่อนข้างท้าทาย เพราะมาร์เก็ตแคปจะต้องปรับขึ้นแตะ 1.8 แสนล้านบาท ในวันแรกที่เข้าระดมทุน ปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแคป 8.4 หมื่นล้านบาท ที่ราคา IPO 36.50 บาทต่อหุ้น