เร่งตรวจเชิงรุก 'โควิด'กทม. 2.6 หมื่นคน ภายใน 2 วัน พร้อมฉีดวัคซีนสัปดาห์หน้า

8 พ.ค.2564 พญ. อภิสมัยศรีรังสรรค์ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 (ศบค.) เปิดเผยผลการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 ว่าในการประชุมของคณะที่ปรึกษาซึ่งมีอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายหน่วยงานทั้งคณะอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในมหาวิทยาลัยสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองกรมควบคุมโรคกรมการแพทย์สำนักอนามัยกทมสำนักการแพทย์กทมและสมาคมเวชบำบัดวิกฤตแห่งประเทศไทยเร่งด่วนเชิงรุกโควิดกทม.โดยมีความเห็นสรุปดังนี้

1 ให้ทุกหน่วยงานในกรุงเทพฯทั้งภาครัฐและภาคเอกชนบูรณาการระบบสารสนเทศเดียวกันเพื่อแบ่งปันข้อมูลโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง

2 เร่งรัดการดำเนินการ active surveillance หรือการคัดกรองเชิงรุกโดยขยายและใช้ศักยภาพของทุกหน่วยงานในกรุงเทพฯทั้งภาคสาธารณสุขและมหาวิทยาลัย

3 ที่ประชุมรับทราบสถานการณ์เตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยสำนักการแพทย์กรมการแพทย์ได้ขยายเตียงสำหรับผู้ป่วยให้เพียงพอโดยเฉพาะผู้ป่วยวิกฤตสีแดงและสีเหลือง

ทั้งนี้ทางคณะที่ปรึกษาขอให้ทางกทมและปริมณฑลเร่งระดมการตรวจจากเดิมแผนตรวจ 26,850 คน ให้แล้วเสร็จใน 1 สัปดาห์ขอให้เพิ่มสรรพกำลังให้ตรวจจำนวนนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน

นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการเตรียมเตียงในส่วนของการติดเชื้อกว่า 1,000 รายต้องเตรียมเตียงไม่ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์รวมแล้วในแต่ละสัปดาห์จะมีการวางแผนเตรียมล่วงหน้าคิดจาก 5% ของยอดผู้ติดเชื้อซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 3-4 เปอร์เซ็นต์จะมีอาการหนักและจำเป็นต้องได้รับการจัดสรรเตียงในส่วนสีเหลืองและสีแดง

ส่วนการจัดสรรวัคซีนโควิด นั้นขณะนี้มีวัคซีนเข้ามาในไทยมากขึ้นโดยในวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา วัคซีนมาถึง 1 ล้านโดส วันที่ 14 พฤษภาคมจะมาอีก 5 แสนโดส และวันที่ 22 พฤษภาคมจะมาอีก 1 ล้านโดส รวมแล้วจะมีเข้ามาอีก 2.5 ล้านโดส ดังนั้นสัปดาห์หน้าจะมีการระดมฉีดในกรุงเทพฯและปริมณฑลโดยครึ่งหนึ่งจะอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

ขณะเดียวกันรองผู้ว่ากรุงเทพมหานครได้เสนอที่ประชุมว่า ในส่วนของ กทม.จะขอให้มีการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ บุคลากรที่เป็นครูพนักงานเก็บขยะกทม. การท่าอากาศยานดอนเมือง รวมทั้งลูกเรือกัปตัน ฟร้อนไลน์ พนักงานส่วนออฟฟิศ รวมทั้งในส่วนของการท่าเรือ พนักงานการไฟฟ้าการประปาn ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายกรมควบคุมโรคที่มีเป้าหมายฉีดวัคซีนโดยเร็วให้แก่บุคคลที่ทำงานสาธารณะ

ปัจจุบันในพื้นที่กทม. มีสถานะที่ฉีดวัคซีน 115 แห่งชน 14 แห่งกระจายไปมหาวิทยาลัยขอให้ติดตามรายละเอียดการฉีดวัคซีนของกทมและปริมณฑลที่จะระดมจีนในระยะใกล้นี้ส่วนสถานที่ 4 ที่ไม่ใช่โรงพยาบาลก็จะมีการจัดโรงพยาบาลพี่เลี้ยงเพื่อความปลอดภัยของประชาชน