ปชป.เมิน 'อันวาร์' ส่งจดหมายกดดันถอนตัวร่วมรัฐบาล

ปชป.เมิน 'อันวาร์' ส่งจดหมายกดดันถอนตัวร่วมรัฐบาล

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ ปม 'อันวาร์' ส่งจดหมายเรียกร้องให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ชี้เป็นปัญหาของคนคนเดียว เชื่อสมาชิกเข้าใจดี ขออย่าโยงคดี 'ธรรมนัส' เหตุเข้ากระบวนการยุติธรรมไปแล้ว 

 8 พ.ค.2564 ที่พรรคประชาธิปัตย์  นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ สาและ ส.ส. ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ เสนอขอให้พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และรมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่พ้นสภาพความเป็นรัฐมนตรีและ ส.ส. ว่า  หลังจากที่นายอันวาร์ส่งหนังสือดังกล่าวถึงคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค  เราไม่ได้นิ่งนอนใจในการทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  ซึ่งที่จริงแล้วได้มีการพูดคุยกับสมาชิกพรรคมาตลอด 

ทั้งนี้ตนเชื่อว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เข้าใจการทำงานของพรรคในการร่วมรัฐบาลว่าเราไม่ได้ต้องการเข้าไปเพื่อเป็นรัฐมนตรี แต่เราได้ยื่นเงื่อนไข 3 ข้อในการร่วมรัฐบาลแล้ว  อีกทั้ง การเข้าร่วมรัฐบาลไม่ได้มีการพิจารณาโดยคนเดียว แต่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรคที่ระบุว่า ต้องให้ที่ประชุม ส.ส.กับคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกันหารือและลงมติว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมรัฐบาล ซึ่งรวมถึงการพิจารณาว่าควรจะถอนตัวจากรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งเป็นกระบวนการประชาธิปไตยของพรรคประชาธิปัตย์

โฆษกพรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ภายในพรรคยังไม่ได้มีการหารือหนังสือฉบับดังกล่าวของนายอันวาร์  และตนยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้หนักใจในสิ่งที่นายอันวาร์ทำในครั้งนี้ เพราะนายอันวาร์ทำหนังสือในลักษณะนี้ออกมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันหลายครั้งแล้ว และเราเชื่อว่ายังสามารถทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคได้ว่าเรากำลังมุ่งผลสำเร็จในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน   

 

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สนใจกับข้อเรียกร้องดังกล่าวของนายอันวาร์ แต่ใช้วิธีทำความเข้าใจกับประชาชนแทน ใช่หรือไม่  โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า  ถูกต้อง เรามุ่งทำความเข้าใจกับประชาชนและสมาชิกพรรค  แต่อาจมีการถามว่าประเด็นที่นายอันวาร์หยิบยกกรณีของ ร.อ.ธรรมนัสมาอ้างถึง ตนคิดว่าตรงนั้นชัดเจนที่สุดว่าได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และได้ถูกนำไปพูดกันในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้งแล้ว แต่การจะนำมาผูกรวมกับการร่วมรัฐบาลหรือถอนตัวจากรัฐบาล ตนคิดว่าไม่ควรนำมาผูกรวมกัน     

เมื่อถามว่า การกระทำครั้งนี้ของนายอันวาร์มีวาระซ่อนเร้นหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาสร้างความปั่นป่วนภายในพรรคมาหลายครั้ง และในการเลือกตั้งครั้งหน้า นจะได้ลงสมัครเลือกตั้งอีกหรือไม่  โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า  เรื่องความเห็นต่างในพรรค เป็นเรื่องที่เราต้องดูเรื่องกฎระเบียบและแนวปฏิบัติของพรรคด้วย  ส่วนแนวคิดของนายอันวาร์เป็นอย่างไรนั้น ตนตอบแทนไม่ได้ แต่บางคนอาจบอกว่านี่คือความปั่นป่วนหรือความไม่เป็นเอกภาพของพรรค ก็คงไม่ได้

เพราะจะเอาปัญหาของคนคนเดียวแล้วบอกว่าเป็นความไม่เป็นเอกภาพในพรรค ก็คงไม่ได้  ทั้งนี้ เหตุผลที่หลายๆคนในพรรคไม่ค่อยให้ความสนใจกับเรื่องนี้ เพราะนี่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรก แต่มีมาหลายครั้ง  ส่วนการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.นั้น นายอันวาร์ลงสมัครอีกครั้ง แต่ต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการในการสรรหาผู้สมัครของพรรค และข้อบังคับพรรค และในเขตเลือกตั้งของนายอันวาร์ ก็เป็นเรื่องของนายอันวาร์และคณะกรรมการบริหารพรรค พิจารณา ถ้าจะนำความเห็นต่างที่นายอันวาร์นำพิจารณา จะไม่เป็นธรรมกับนายอันวาร์  ทั้งนี้ขอยืนยันว่าพรรคยึดหลักว่าทั้ง 350 เขตเลือกตั้ง บุคคลที่มีคุณสมบัติทั้งส.ส. อดีตส.ส. และบุคคลที่ทำงานการเมือง ก็มีสิทธิ์ลงสมัคร ส.ส.ได้ทั้งหมด    

ต่อข้อถามว่าทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ได้พูดคุยกับนายอันวาร์อีกครั้งแล้วหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า เมื่อเกิดปัญหาทุกครั้ง เลขาธิการพรรค ในฐานะที่เป็นแม่บ้านของพรรค ดูแลทุกอย่างภายในพรรค ต้องทำความเข้าใจกับนายอันวาร์ว่าตอนนี้นายอันวาร์อาจไม่ทราบว่ารัฐมนตรีของพรรคที่ไปร่วมรัฐบาลได้เดินหน้าทำงานในเรื่องใดบ้าง และมีความสำเร็จที่พรรคประชาธิปัตย์ที่ผลักดันนโยบายต่างๆ ก็ประสบผลความสำเร็จในทุกกระทรวง  จึงไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล สิ่งสำคัญในช่วงนี้ ทุกฝ่ายและพรรคการเมืองต้องมุ่งเน้นเรื่องการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 ในการช่วยเหลือประชาชน และทุกฝ่ายควรร่วมมือกัน ไม่มีฝ่ายค้านและรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตโควิด ให้ผ่านพ้นไปให้ได้ อีกทั้งส่วนตัวไม่อยากไปโต้แย้งหรือขัดแย้งกับใครหากไม่ถูกพาดพิง