สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 3-7 พฤษภาคม 2564

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 3-7 พฤษภาคม 2564

เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด ขณะที่หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้ช่วงปลายสัปดาห์

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด โดยหลังจากที่เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยในช่วงกลางสัปดาห์ตามการปรับโพสิชันหลังตลาดในประเทศกลับมาเปิดทำการ เงินบาทก็ขยับอ่อนค่าลงในช่วงต่อมาท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด 19 รอบสามในประเทศ อย่างไรก็ดีเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงกดดันจากการที่ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงินของสหรัฐฯ โดยรมว. คลังสหรัฐฯ ออกมากล่าวย้ำว่า ไม่ได้ต้องการแทรกแซงการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยของเฟด และได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาวะเงินเฟ้อยังไม่ได้สร้างปัญหาต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

- ในวันศุกร์ (7 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.15 เทียบกับระดับ 31.14 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (30 เม.ย.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (10-14 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.00-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด 19 ในประเทศ สัญญาณเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสภาคองเกรส และสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. (เบื้องต้น) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามข้อมูลยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวน ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนเม.ย. ของจีนด้วยเช่นกัน

162039363684

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

หุ้นไทยกลับมาปิดที่ระดับใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,585.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.12% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 104,102.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.44% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลงเล็กน้อยที่ 0.01% มาปิดที่ 487.25 จุด  

- หุ้นไทยร่วงลงแรงช่วงกลางสัปดาห์ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับโควิด 19 ในประเทศ รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ หลังรมว.คลังสหรัฐฯ มองว่าเฟดอาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ดี หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้ในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มเติม รวมถึงการที่ ตลท. ชะลอการปรับหลักเกณฑ์การคำนวณดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ฯ แบบใหม่ออกไป (โดยยังคงใช้วิธีการคำนวณแบบเดิมต่อ) ซึ่งกระตุ้นแรงซื้อคืนหุ้นขนาดใหญ่บางตัว โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี 

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (10-14 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,575 และ 1,560 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,600 และ 1,620 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด 19 ทั้งในและต่างประเทศ ความคืบการกระจายวัคซีนโควิด 19 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย รวมถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 ตลอดจนความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนและคู่ค้า ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนเม.ย. ของจีน และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.ของยูโรโซน