วิถี ‘ธรรมนัส’ จาก ‘โทนี่’ ถึง ‘ป้อม’

 วิถี ‘ธรรมนัส’ จาก ‘โทนี่’ ถึง ‘ป้อม’

เส้นทางการเมืองของธรรมนัส เหมือนมีคนเขียนบทให้เดิน จากตัวละครลับของ ทักษิณ ชินวัตร มาสู่ขุนพลเอกของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

จังหวัดพะเยา แยกจากจังหวัดเชียงราย เมื่อ 42 ปีที่แล้ว เป็นเมืองเกษตรกรรม ชาวพะเยาปลูกข้าวเป็นหลัก ยาสูบเป็นรอง แต่ “ยาสูบ” กลับสัมพันธ์กับการเมืองจนมีวลีที่ว่า “พะเยา..ใบยาเมืองนี้ สำคัญนักหนา”

ตระกูลการเมืองแห่งกว๊านพะเยาคือ “ตันบรรจง” สร้างเนื้อสร้างตัวมาจากโรงบ่มรวมเพียว อ.ปง โดย เพียว ตันบรรจง เป็น ส.ส.พะเยา พรรคประชาธิปัตย์ ปี 2519

พ่อเลี้ยงเพียว มีบุตรธิดา 6 คน ลงเล่นการเมือง 3 คนคือ วรภัส ธัญกมลภัทร หรือ พวงเล็ก ตันบรรจง อดีตรัฐมนตรี และ ส.ส.พะเยา 7 สมัย ไพโรจน์ ตันบรรจง ส.ส.พะเยา 4 สมัย และไพรัตน์ ตันบรรจง อดีตนายก อบจ.พะเยา

พวงเล็ก ตันบรรจง เป็น ส.ส.พะเยา มายาวนาน และส่งต่อพี่ชายคนโต-ไพโรจน์ เป็น ส.ส.ปี 2539 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และนับแต่ปี 2548 เป็นต้นมา ตระกูลตันบรรจง ก็ต้องขึ้นรถไฟสายชินวัตรเข้าสภา เมื่อใบยาสิ้นมนต์ขลัง

ปี 2554 เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ในการเมืองท้องถิ่น ไพรัตน์ ตันบรรจง อดีตนายก อบจ.หลายสมัย พ่ายแพ้แก่ วรวิทย์ บุรณศิริ คนอยุธยา แต่ไปทำมาหากินแถวเมืองพะเยา

ผู้อยู่เบื้องหลังการหักโค่นตระกูล “ตันบรรจง”คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นั่นเอง

สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ผู้กองธรรมนัส ที่มั่งคั่งจากการค้าสลากกินแบ่ง หวังจะกลับไปเล่นการเมืองที่บ้านเกิด จึงปูทางด้วยการยึดท้องถิ่น โดยการสนับสนุนของ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์

จริงๆ แล้ว “ธรรมนัส” ไม่ใช่คนแปลกหน้าของค่ายชินวัตร สมัยที่ “ธรรมนัส” ยังใช้ชื่อ ร.อ.มนัส พรหมเผ่า เป็นนายทหารเด็กที่เดินตาม “เสธ.ไอซ์” พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ซึ่งเป็นเพื่อน ตท.10 ร่วมรุ่นกับ ทักษิณ ชินวัตร

เมื่อ “ทักษิณ” หรือ “โทนี่” ตั้งพรรคไทยรักไทย ช่วงการหาเสียงปี 2543-2544 “เสธ.ไอซ์” ได้เข้าไปช่วยเหลือเพื่อนด้วยความเต็มใจ หน่วยรักษาความปลอดภัยของทักษิณ จึงเป็นการผสมผสานระหว่าง “ทีมเสธ.ไอซ์” นำโดย ร.อ.มนัส พรหมเผ่า กับ “ทีมสหายเก่า” ของสองพี่น้องตระกูล “จันทรขจร”

ฉะนั้น “ธรรมนัส” จึงรู้จักมักคุ้น ส.ส.เพื่อไทย และแกนนำ นปช. รวมถึงเจ๊ใหญ่ นายกฯ ปู และนายกฯ ทักษิณ

สมัย คสช. ผู้กองธรรมนัส ต้องหลบร้อนออกจากพะเยาไปอยู่นราธิวาส เนื่องจากเขาเคยเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ปี 2557 และมีความใกล้ชิดกับแกนนำนปช.

ปี 2561 ธรรมนัสกลับบ้านเกิดอีกครั้ง ในฐานะแกนนำภาคเหนือ ของพรรคพลังประชารัฐ และคนเมืองกว๊าน ได้เห็นปรากฏการณ์ “ดับทักษิณ” เมื่อพลังประชารัฐ ยึด 2 ที่นั่ง ส.ส.พะเยา มาได้ จากทั้งหมด 3 ที่นั่ง

ภาพรวม ส.ส.ภาคเหนือของพลังประชารัฐ กระจายอยู่ใน 3 ซุ้มคือ กลุ่มสมศักดิ์ เทพสุทิน กลุ่มสันติ พร้อมพัฒน์ และกลุ่มผู้กอง

จะว่าไปแล้ว ขุมกำลัง ส.ส.พลังประชารัฐ สายเหนือของธรรมนัส มีไม่มากนัก อาทิ บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จีรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยา ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก ภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.ตาก และ ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร

การเป็นคนใจนักเลง มีเพื่อนพ้องน้องพี่เยอะ จึงต่อสายไปหา “พรรคการเมืองจิ๋ว” ดึงเข้ามาร่วมรัฐบาลประยุทธ์ จนได้ฉายา “มือประสานสิบทิศ” รวมถึงการสร้างบารมีในพรรคฝ่ายค้าน

ย้อนไปดูวันโหวตศึกซักฟอก เมื่อ ก.พ.2564 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ได้คะแนนไว้วางใจ 274 ต่อ 199 งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 1 ปรากฏมีเสียง ส.ส.ฝ่ายค้าน ลงมติสวนมติวิปด้วย

ส.ส.ฝ่ายค้านที่ลงมติไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มาจากพรรคเพื่อไทย 2 คน พรรคประชาชาติ 1 คน และพรรคเพื่อชาติ 3 คน

สำหรับพรรคเพื่อชาตินั้น มี ส.ส. 5 คน ปรากฏว่า ไว้วางใจ 3 คน และงดออกเสียง 2 คน ซึ่งใครก็รู้ว่า พรรคนี้มีกองเชียร์ตัวจริงชื่อ ยงยุทธ ติยะไพรัช แถม 1 ใน 2 ที่งดออกเสียงคือ “โฮม” ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ลูกสาวของยงยุทธ

“ธรรมนัส” ทำงานการเมืองหลังม่านมานาน ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย จึงรู้จักแกนนำมุ้งต่างๆ ในพรรคการเมืองเครือข่ายของ “คนแดนไกล” เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน สังเกตจากการไปตรวจราชการของ ร.อ.ธรรมนัส ในภาคอีสาน และภาคเหนือ มักจะเห็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ รมช.เกษตรฯ คนนี้อยู่บ่อยๆ

ตอนเลือกตั้งซ่อมลำปาง เขต 4 ธรรมนัส เล่าให้นักข่าวฟังว่า เขาประสานกับ ส.ส.ต่างพรรคตั้งกลุ่มลูกข้าวนึ่ง หรือ ส.ส.คนเมือง(ภาคเหนือ) มีประมาณ 70 คน มีทั้ง ส.ส.พลังประชารัฐ และ ส.ส.เพื่อไทย นับรวม ส.ส.สอบตก พรรคพลังประชารัฐในภาคเหนือด้วย

นอกจากนี้ ธรรมนัสได้ขยับเข้ามาดูแล ส.ส.ภาคใต้ 13 ชีวิตของพรรคพลังประชารัฐ จึงเกิดปมขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะผลงานเลือกตั้งซ่อม เขต 3 นครศรีธรรมราช ดังสะท้านปักษ์ใต้

เส้นทางการเมืองของธรรมนัส เหมือนมีคนเขียนบทให้เดิน จากตัวละครลับของ ทักษิณ ชินวัตร มาสู่ขุนพลเอกของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เขาจึงทะยานไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ