ทอท.ลุยธุรกิจนอนแอโรว์ ดัน “AOTTO” หนุนภาคส่งออก

ทอท.ลุยธุรกิจนอนแอโรว์  ดัน “AOTTO” หนุนภาคส่งออก

ทอท.ดันธุรกิจใหม่ หนุนภาคส่งออกไทยและอาเซียน ตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ่อทดลองบริการช่องทางพิเศษตรวจสอบสินค้า ก่อนโอเปอร์เรตครบวงจร พ.ย.นี้

ภายหลังกระทรวงคมนาคม ออกนโยบายเร่งผลักดันโครงการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตรก่อนส่งออก (Pre-shipment Inspection Center) สั่งบริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.จับมือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตรยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบสินค้าเกษตร หวังเพิ่มมูลค่าการส่งออก พืช ผัก ผลไม้ ออกสู่ตลาดโลก

ล่าสุด ทอท.โดยนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เผยว่า กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ ทอท. เร่งจัดทำรายละเอียดเพื่อลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเดือน พ.ย.นี้ โดยระหว่างนี้ ทอท.จะต้องดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action Plan) กระบวนการบริหารจัดการ เพื่อให้การดำเนินงานเกิดความชัดเจน

อย่างไรก็ดี ทอท.จะดำเนินโครงการช่องทางพิเศษสำหรับสินค้าเน่าเสียง่าย ผ่านบริษัทจำกัดในนาม บริษัท ท่าอากาศยานไทย ทาฟ่า โอเปอเรเตอร์ จำกัด (AOT TAFA Operator Co.,Ltd : AOTTO) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ทอท. และ บริษัท ทาฟ่า คอนซอร์เที่ยม จำกัด ได้จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา

โดยระยะแรก AOTTO จะดำเนินการจัดตั้ง “สถานที่สำหรับเตรียมสินค้าเกษตร สินค้าเน่าเสียง่าย และตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนส่งออกต่อไปในอนาคตผ่านทางช่องทางพิเศษ” (Perishable Premium Lane) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงสถานที่ให้บริการ บริเวณอาคารคลังสินค้า 4 (WH4) อยู่ภายในเขตปลอดอากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)

นายนิตินัย เผยด้วยว่า ทอท.ต้องการผลักดันโครงการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตรก่อนส่งออก (Pre-shipment Inspection Center) เป็นศูนย์กลางการส่งออกของภูมิภาค ด้วยมาตรฐานการตรวจสอบสินค้าที่เป็นไปตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป (EU) โดยระยะแรกนี้จะเริ่มนำร่องด้วยบริการ Perishable Premium Lane หลังจากนั้นเมื่อกรมวิชาการเกษตร ได้ตรวจสอบระเบียบการตรวจสอบสินค้าเกษตรแล้วเสร็จ จะมีการเปิดบริการศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตรนี้อย่างครบวงจร

“ในช่วงระหว่างที่ต้องดำเนินการเช็คลิสต์ ทำตามการตรวจสอบของระเบียบกฎหมายสินค้าต่างๆ โดยกรมวิชาการเกษตรนั้น AOTTO จะเริ่มหารายได้จากการทำพรีเมี่ยมเลน บริการสินค้าที่ต้องการส่งด่วน บริการตรวจสอบ ช่วยการันตีว่าจะไม่มีการตีกลับสินค้า คาดว่าอย่างเร็วจะได้เริ่มให้บริการในช่วงเดือน ก.ค.- ส.ค.และจะเริ่มพร้อมโอเปอร์เรตในเดือน พ.ย.นี้”

สำหรับดีมานด์ความต้องการใช้บริการ Perishable Premium Lane และศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร ทอท.มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้ส่งออกสินค้าทั้งไทยและอาเซียนเข้ามาใช้บริการ เนื่องจากการส่งออกสินค้าที่ได้รับการตรวจสอบจากศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตรแห่งนี้ จะสามารถนำเข้าไปยัง EU โดยไม่ต้องตรวจสอบซ้ำ สร้างความสะดวกให้กับผู้ส่งออกอย่างมาก

อีกทั้ง AOTTO ยังเป็นบริษัทลูกที่ ทอท.ได้ร่วมทุนกับสมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย (TAFA) ซึ่งมีสมาชิกเป็นผู้ส่งออกสินค้าที่มีความต้องการในการใช้บริการอยู่แล้ว ครองสัดส่วนมูลค่าทางการตลาดส่งออกสินค้าเน่าเสีย คิดเป็น 90% ของไทย จึงมั่นใจว่าสมาชิกใน TAFA จะเข้ามาใช้บริการ Perishable Premium Lane และศูนย์ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร

อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคม ยังมีนโยบายผลักดันการจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบสินค้าเกษตรขยายไปยังท่าอากาศยานอื่นๆ ในอนาคต ซึ่งกระทรวงคมนาคมและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะร่วมมือกันในเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.ร่วมกันพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านการเกษตรให้มีประสิทธิภาพและมาตรฐานสูงขึ้น

2.ร่วมกันวางระบบการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานสินค้าเกษตรก่อนบรรทุกขึ้นเครื่องบิน (pre-shipment inspection) เพื่อขนส่งไปยังประเทศปลายทาง

3.ร่วมกันผลักดันและโน้มน้าวให้ประเทศคู่ค้าตระหนักถึงประโยชน์ของการตรวจสอบสินค้าเกษตรก่อนบรรทุกขึ้นเครื่องบิน

4.ร่วมกันผลักดันและโน้มน้าวให้ประเทศคู่ค้าส่งเจ้าหน้าที่หรือบุคลากรหรือหน่วยงานที่ได้รับความไว้วางใจมาตรวจสอบสินค้าเกษตร ณ ท่าอากาศยานของไทยก่อนบรรทุกขึ้นเครื่องบินไปยังประเทศปลายทาง

5.จัดตั้งคณะทำงานหรือคณะเจรจาเพื่อติดต่อประสานงานกับประเทศต่างๆ หรือหน่วยงานหรือองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ

6.ร่วมกันจัดสัมมนาหรือการฝึกอบรมให้แก่บุคลากรของทั้งสองฝ่าย หรือให้แก่บุคคลภายนอก รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน

7.ร่วมกันพัฒนาระบบดิจิตอลหรือโซลูชั่นเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน และเพื่อประสานการทำงานของทั้งสองกระทรวงภายใต้ MOU ฉบับนี้ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

8.จัดตั้งงบประมาณเชิงบูรณาการเพื่อดำเนินการต่างๆ ภายใต้ MOU ฉบับนี้

9.ดำเนินกิจกรรมร่วมกันในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง