STGT - ถือ

STGT - ถือ

ปีนี้จะทำกำไรสูงสุด

เราคาดกำไร 1Q21F จะเติบโต 24 เท่า yoy และ 23% qoq สู่ 1.04หมื่นลบ. และจ่ายเงินปันผลใน 1Q ราว 1.85 บาทต่อหุ้น กำไรที่เพิ่มขึ้นได้รับแรงหนุนจากราคาขายเฉลี่ย (ASP) ที่สูงขึ้น แต่เราคาดกำไร FY22F อาจลดลง 53% yoy สู่ 1.31 หมื่นลบ. เนื่องจากซัพพลายทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากอาจส่งผลให้ ASP ลดลง คงคำแนะนำ ถือ และให้ราคาเป้าหมายที่ 49.00 บาทต่อหุ้น 

 

คาดกำไร 1Q21F อาจเพิ่มขึ้น 24 เท่าสู่ 1.04 หมื่นลบ.

เราคาดราคาขายเฉลี่ย (ASP) เพิ่มขึ้น 275% yoy และ 18% qoq สู่ 2,250 บาท ต่อ 1,000 ชิ้นใน 1Q คาดปริมาณขายจะทรงตัว qoq เนื่องจากปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ต้นทุนเฉลี่ยของวัตถุดิบเพิ่มขึ้นบ้างแต่มีผลกระทบน้อยกว่าราคาขายโดย (1) น้ำยางธรรมชาติ: 43.30 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้น 25% yoy และ 4% qoq, (2) butadiene: USD855 ต่อตัน, เพิ่มขึ้น 17% yoy แต่ ลดลง 25% qoq และ (3) acrylonitrile: USD2,060ต่อตัน, เพิ่มขึ้น 87% yoy และ 88% qoq คาดอัตรากำไรขันต้นใน 1Q21F เพิ่มขึ้นเป็น 75.0% เทียบกับ 71.6% ใน 4Q20 ขณะที่กำไร 1Q21F จะเติบโต 24 เท่า yoy และ 23% qoq เป็น 1.04 หมื่นลบ. และจ่ายเงินปันผลสำหรับการดำเนินงาน 1Q21F ได้ราว 1.85 บาทต่อหุ้น

 

ปรับคาดการณ์กำไร FY21F และ FY22F ขึ้น 81% และ 42%

เราปรับคาดการณ์กำไรขึ้น 81% และ 42% สู่ 2.79 หมื่นลบ.และ 1.31 หมื่นลบ.ตามลำดับหลังจากปรับราคาขายเฉลี่ยขึ้นสู่ 1,600 บาทและ 1,000 บาทต่อ 1,000 ชิ้น จากเดิม 1,100 บาทและ 800 บาท ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น FY21F และ FY22F เพิ่มขึ้นเป็น 62.5% และ 35.0% จากเดิม 55% และ 30% ตามลำดับ

 

แต่กำไร FY22F มีแนวโน้มลดลง yoy

แม้ว่ากำลังการผลิตปี 2022 จะเพิ่มขึน 39% สู่ 50,000 ล้านชิ้นต่อปี แต่เราคาดกำไร FY22F จะลดลง 53% yoy สู่ 1.31หมื่นลบ. จากซัพพลายทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นมากอาจทำให้ ASP ลดลงจาก 1,600 บาทต่อ 1,000 ชิ้นสู่ 1,000 บาท และทำให้อัตรากำไรขั้นอยู่ในช่วง 30-35% ได้

 

คงคำแนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ 49 บาท (จาก 43.25บาทต่อหุ้น)

ตลาดคาดว่าการฉีดวัคซีน COVID-19 ในวงกว้างทั่วโลกและซัพพลายทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาขายเฉลี่ยลดลงอย่างรวดเร็ว ราคาเป้าหมายของเราเทียบเท่า 5.0x FY21F EPS