CP หนุน 'รพ.สนาม-รพ.ตำรวจ' ฝ่าวิกฤติโควิดระลอกใหม่

CP หนุน 'รพ.สนาม-รพ.ตำรวจ' ฝ่าวิกฤติโควิดระลอกใหม่

รพ.สนาม โรงพยาบาลตำรวจ รับมอบเสบียงอาหาร-เครื่องดื่ม-ระบบสื่อสาร เครือซีพี ใช้งบประมาณส่วนหนึ่งจากกรอบโครงการใหญ่ 200 ล้านตามนโยบายเจ้าสัวธนินท์ ผนึกกำลังทุกบริษัทในเครือ

7 พฤษภาคม 2564 จากสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ ที่่แพร่ระบาดตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการเปิดโรงพยาบาลสนามในหลายพื้นที่เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมกลุ่มธุรกิจและบริษัทในเครือ ได้ผนึกกำลังกันภายใต้โครงการ "ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19" ตามนโยบายของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือฯ ที่ประกาศภารกิจเพื่อชาติสนับสนุนงบประมาณรวม 200 ล้านบาท ดำเนินการสนับสนุนอาหาร น้ำดื่ม และการสื่อสารให้แก่โรงพยาบาลสนามในหลายพื้นที่ ล่าสุดนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือซีพี กล่าวขอบคุณแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลตำรวจ ที่เป็นด่านหน้าต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้

นายวรวิทย์ เจนธนากุล กรรมการบริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF ในฐานะผู้แทนเครือซีพี กล่าวว่า ภารกิจการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของสังคมและแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลหลักถือเป็นเป้าหมายภารกิจเพื่อชาติที่จำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมกลุ่มธุรกิจและบริษัทในเครือ ตลอดจนผู้บริหารและพนักงานซีพีทุกคนขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19

ทั้งนี้ เป็นหนึ่งในภารกิจ "ซีพีร้อยเรียงความดี" (CP for Good Deeds) ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์และทุกกลุ่มธุรกิจในเครือได้ร่วมแสดงพลังความดี และความภาคภูมิใจในฐานะองค์กรที่ยึดมั่นในค่านิยม 6 ประการ ผนึกกำลังสร้างความรัก ความสามัคคีส่งกำลังใจให้กับสังคมไทยผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

"เครือซีพี พร้อมด้วยทุกกลุ่มธุรกิจและพนักงานของเราทุกคนขอส่งความห่วงใยไปยังแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้ารับมือสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 รวมทั้งให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยติดเชื้อที่เข้ารับการรักษาตัวทุกคน โดยเครือซีพีในฐานะภาคเอกชนที่เคียงข้างสังคมไทยมาตลอด 100 ปี พร้อมระดมสรรพกำลังจากทุกกลุ่มธุรกิจในเครือมอบเสบียงเติมเต็มพลังกาย พลังใจ เพื่อสนับสนุนภารกิจโรงพยาบาลสนามที่ถือเป็นภารกิจเพื่อประเทศชาติให้ลุล่วงด้วยดี และขอขอบคุณบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลสนามทุกท่านที่ได้เสียสละดูแลสังคมในวิกฤตนี้" นายวรรวิทย์กล่าว

162036202898

นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรู เร่งนำศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัลและนวัตกรรมเทคโนโลยี อำนวยความสะดวกให้แก่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ และผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ให้ติดต่อสื่อสารกันได้อย่างราบรื่น ไม่สะดุด โดยจัดส่งหุ่นยนต์อัจฉริยะ True 5G “เทมิ” ช่วยดูแลผู้ป่วยได้จากระยะไกล ทั้งติดตามอาการและให้คำแนะนำในการรักษา ลดการสัมผัสและความเสี่ยงติดเชื้อ ทำให้สามารถดูแลคนไข้ได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

รวมถึงติดตั้งไฟเบอร์อินเทอร์เน็ต และตัวกระจายสัญญาณ WiFi ภายในอาคาร ตลอดจนมอบ True SMART 4G Adventure (Walkie Talkie) พร้อมซิมทรูมูฟ เอชแบบเติมเงิน ให้บุคลากรทางการแพทย์ใช้โทรและดาต้าฟรี นาน 1 ปี และเพิ่มความผ่อนคลายด้วยบริการ “ทรูวิชั่นส์ นาว” (TrueVisions NOW) รับชม 24 ช่องดังจากทรูวิชั่นส์ได้ทันทีผ่านสมาร์ทโฟน บนแอปพลิเคชันทรูไอดี โดยมอบรหัสดูฟรีให้ผู้ป่วย

นอกจากนี้ ยังเปิดคอลล์ เซ็นเตอร์เฉพาะกิจ 02-700-9022 เพื่อดูแลเครือข่ายและบริการในโรงพยาบาลอย่างใกล้ชิด ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกลุ่มทรู ที่ต้องการเคียงคู่คนไทยและประเทศไทย ให้ก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

162036229852

พล.ต.ต.วัชรินทร์ พิภพมงคล นายแพทย์ (สบ.7) โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ขอขอบคุณเครือซีพีที่สนับสนุนเสบียงอาหาร 3 มื้อ พร้อมเครื่องดื่ม และสนับสนุนระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางการแพทย์ในสถานการณ์โควิด-19 นี้

ทั้งนี้ โรงพยาบาลตำรวจให้การรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลหลักและการเปิดโรงพยาบาลสนามในพื้นที่โรงพยาบาลตำรวจคู่ขนานกันไปด้วยตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ดำริว่าต้องสนับสนุนภารกิจของประเทศชาติช่วยเหลือทั้งตำรวจและประชาชนที่มีการติดเชื้อโควิด-19 162036236590

รวมทั้งสถานการณ์ขณะนี้ยังมีผู้ป่วยถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ต้องรับมือและเร่งปฏิบัติหน้าที่สลับเวรกันตลอด 24 ชั่วโมง จึงอยากขอความร่วมมือให้ประชาชนการ์ดอย่าตก ดูแลตัวเองให้เข้มงวดทั้งการใส่แมสก์ ล้างมือด้วยสบู่ หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่สาธารณะที่ไม่จำเป็น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนที่จะไม่เสี่ยงติดเชื้อ และยังเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระระบบการแพทย์และสาธารณสุข