'อ.อานนท์' เชื่อ กระแสดิสเครดิต 'ศาลรัฐธรรมนูญ' ไม่จบง่าย ชี้ตัวใครคือคนเบื้องหลัง

'อ.อานนท์' เชื่อ กระแสดิสเครดิต 'ศาลรัฐธรรมนูญ' ไม่จบง่าย ชี้ตัวใครคือคนเบื้องหลัง

'อ.อานนท์' ชี้มีคอการเมืองเสียผลประโยชน์ยุบพรรค เคลื่อนไหว ดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญ เชื่ออาจรู้คำตอบ แต่จงใจยื่น ยกเคส 'พนิช' เทียบเคียง

       นายอานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวผ่านรายการสนามข่าว 101 ถึงกระแสวิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญหลังมีคำวินิจฉัยคดีของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และรมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ศาลรัฐธรรรมนูญถูกดิสเครดิต และกลายเป็นจำเลยสังคม ทั้งที่ทำหน้าที่อย่างยุติธรรม ตัดสินตามหลักกฎหมาย จะพิจารณาตามอารมณ์ของสังคมไม่ได้ อย่างไรก็ดีอาจจะมองได้ว่าคนที่ยื่นเรื่องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญอาจรู้คำตอบ เพราะมีกรณีเทียบเคียง คือ กรณีของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยถูกจำคุกที่ประเทศกัมพูชา และมีผู้ยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณาเรื่องคุณสมบัติ ซึ่งศาลมีคำวินิจฉัยถึงอธิปไตยของศาลต่างประเทศ และมีบทสรุปคือไม่พ้นตำแหน่งส.ส. 

       “ผมสงสัยว่าคนร้องทำไมไม่ร้อง ไปที่กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เหมือนกับ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ไป ส่วนที่จะยื่นเรื่องจริยธรรมนั้น หากนำเรื่องที่เป็นเรื่องเก่า หรือเรื่องที่ไม่ได้เกิดในขณะที่เขาดำรงตำแหน่ง อาจไม่มีผล แต่อยู่ที่ประชาชนและผู้นำประเทศที่แต่งตั้งว่าสง่างามหรือไม่ อย่างไรก็ดีผมมองว่าคนที่กระทำความผิดไม่ควรถูกตีตราไปตลอดชีวิต เรื่องนี้จบแล้วและรับโทษแล้วควรให้โอกาส ทั้งผมไม่เห็นด้วยกับคนที่รับตำแหน่งและคนที่แต่งตั้งว่าไม่สง่างามแต่การตัดสินต้องยึดตามหลัก” นายอานนท์ กล่าว 
       นายอานนท์ กล่าวด้วยว่าเชื่อว่ามีคำถามจากสังคมมุมกลับเช่นกันว่า การรอนสิทธิของบุคคล จะตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต หรือพิพากษารอนสิทธิของบุคคลอย่างรุนแรงไม่ให้ยุ่งการเมืองตลอดชีวิต การกระทำแบบนี้เรียกว่าเป็นเสรีนิยมหรือเป็นเผด็จการ อย่างไรก็ดีตนมองว่ากระแสดิสเครดิตศาลรัฐธรรมนูญจะไม่จบง่าย เพราะมีกลุ่มการเมืองที่เสียผลประโยชน์จากการยุบพรรรคเคลื่อนไหว  ขณะที่ประเด็นของรัฐบาลตนมองว่ารัฐบาลต้องคิดก่อนจะแย่ไปกว่านี้ ว่าแม้ในทางกฎหมายไม่ผิด แต่ในทางจริยธรรมกับการเมืองนั้นเหมาะสมหรือไม่.