หุ้นไทยพุ่งแรง 22.69 จุด กลุ่มบิ๊กแคปบวกนำดัชนี

หุ้นไทยพุ่งแรง 22.69 จุด กลุ่มบิ๊กแคปบวกนำดัชนี

ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดบวก 22.69 จุด เพิ่มขึ้น 1.46% อานิสงส์แรงซื้อกลับหุ้นใหญ่ "อิเล็กทรอนิกส์-ค้าปลีก-พลังงาน"

ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ (6 พ.ค.2564) ปิดบวกที่ 1,571.91 จุด เพิ่มขึ้น 22.69 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.46% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 91,321.21 ล้านบาท

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นฟื้นตัวกลับขึ้นมาจากวานนี้ (5 พ.ค.) ที่ปรับลงแรงประมาณ 33 จุด โดยเป็นแรงซื้อกลับในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มพลังงาน

ขณะที่การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) ปรับขึ้นนำตลาดมากที่สุด 16.51% มาอยู่ที่ 367.00 บาทต่อหุ้น จากปัจจัยบวกเฉพาะตัวที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศเลื่อนใช้เกณฑ์ฟรีโฟลทในการคำนวณดัชนี (Free Float Adjusted)

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,540-1,575 จุด โดยกลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะนำซื้อหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 1 ปี 2564 จะออกมาดี และมีแนวโน้มดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ บมจ.เอส พี วี ไอ (SPVI), บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PPTGC) และ บมจ.เอ็ม.ซี.เอส.สตีล (MCS) 

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า  เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ( 6 พ.ค.) ปรับตัวขึ้นนำโดยกลุ่มได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง เช่น ค้าปลีก ตอบรับยอดผู้ติดเชื่อโควิด-19 ในประเทศต่ำกว่า 2,000 คนเป็นวันแรกและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ  

แนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) ยังทรงตัว มองแนวรับ 1,560 จุด แนวต้าน 1,575 -1,580 จุด  กลยุทธ์ยังแนะนำซื้อ 2 ธีมมีแนวโน้มเติบโตดี  คือ ธีมงบไตรมาส 1/64 ออกมาดี เช่น IRPC PTTGC TPIPL และธีมส่งออกดี เช่น ISL NER  

ประเด็นต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวัน,การประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/64 โค้งสุดท้าย ,ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ โดยเฉพาะการจ้างงาน และปัจจัยกดดันจากกระแสเงินทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นเงินไหลออกชัดเจนมากขึ้น และกระแสเงินทุนในประเทศเริ่มทรงตัว ขณะที่สภาพคล่องในประเทศไม่น่าจะมีเพิ่มขึ้น จากภาครัฐใช้การกู้เต็มเพดาน เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโควิดเป็นหลักทำให้มีงบมากระตุ้นเศรษฐกิจไม่มาก 

นอกจากนี้ หากตลาดหุ้นต่างประเทศพักฐานจากปรับตัวสูงก่อนหน้า มีโอกาสทำใหตลาดหุ้นไทยปรับฐานลงมาเช่นกันแต่เป็นการปรับฐานระยะสั้น มองแนวรับที่ 1,500-1,520 จุด