VIBHA ดิ่ง! รพ.วิภาวดี ยกเลิกนำเข้า ‘วัคซีนโมเดอร์นา’

VIBHA ดิ่ง! รพ.วิภาวดี ยกเลิกนำเข้า ‘วัคซีนโมเดอร์นา’

เวลานี้ “วัคซีน” ถือเป็นความหวังของคนทั้งโลกที่จะยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ลากยาวมากว่า 1 ปี และดูแล้วสถานการณ์ไม่น่าจบลงง่ายๆ ซึ่งในหลายประเทศพบการระบาดรอบใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เชื้อไวรัสก็กลายพันธุ์ทำให้อยากที่จะควบคุม

สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทยขณะนี้เป็นการระบาดระลอกที่ 3 โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่าพันคนต่อวันติดต่อกันมาเกือบ 1 เดือนแล้ว ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนหวั่นวิตกว่าถ้ายังมีผู้ติดเชื้อมากขนาดนี้ ระบบสาธารณสุขของไทยอาจรองรับไม่ไหว ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดขณะนี้คือการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่

สำหรับแผนการจัดหาวัคซีนของประเทศไทย รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อฉีดให้กับคนไทย 50 ล้านคน หรือ คิดเป็นประมาณ 70% ของประชากรทั้งประเทศ และเปิดทางให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม

ขณะนี้วัคซีนที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุมัติแล้วมี 3 ราย ได้แก่ “แอสตร้าเซนเนก้า” และ “ซิโนแวค” ซึ่งนำเข้ามาแล้ว และวัคซีนของ “จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน” ส่วน “โมเดอร์นา” อยู่ระหว่างประเมินคำขอขึ้นทะเบียน

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 ราย ที่อยู่กำลังทยอยยื่นเอกสาร ได้แก่ วัคซีน “โควาซิน” ของบารัต ไบโอเทค จากอินเดีย และ “สปุตนิกวี” ของรัสเซีย ขณะเดียวกันนายกฯ สั่งเร่งจัดหาและนำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ เพิ่มเติม หลังผู้ติดเชื้อยังพุ่งไปหยุด โดยกระทรวงสาธารณสุขมีแผนนำเข้าวัคซีน “ไฟเซอร์” จำนวน 5-20 ล้านโดส และวัคซีนของสปุตนิกวี, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และซิโนแวค บริษัทละ 5-10 ล้านโดส

ขณะที่วัคซีนทางเลือกของเอกชนที่เวลานี้มีโอกาสเป็นไปได้มากที่สุด เห็นจะเป็นวัคซีนของโมเดอร์นาที่อยู่ระหว่างการรออนุมัติจาก อย. ซึ่งเอกชนหลายแห่งสนใจที่จะนำเข้าผ่านองค์การเภสัชกรรม ทั้งกลุ่มบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ร่วมกับ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS จำนวน 5 ล้านโดส

ขณะที่ บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA สนใจเช่นกัน แต่ล่าสุดต้องเปลี่ยนแผนใหม่ โดย พิจิตต์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยกับกรุงเทพธุรกิจว่า ทางกลุ่มโรงพยาบาลวิภาวดีตัดสินใจยกเลิกนำเข้าวัคซีนของโมเดอร์นาเพื่อมาฉีดให้กับลูกค้า เนื่องจากเงื่อนไขระบุไว้ว่าบริษัทต้องวางเงิน 100% ให้กับโมเดอร์นาทันทีเมื่อสั่งซื้อ แต่โมเดอร์นายังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะส่งมอบวัคซีนได้เมื่อไหร่

“โมเดอร์นาไม่สามารถบอกได้ว่าจะส่งมอบวัคซีนให้เราได้เมื่อไหร่ เราก็ไม่สามารถตอบลูกค้าได้ แล้วใครจะอยากฉีดถ้าไม่รู้เวลาที่แน่นอน ยิ่งส่งมอบช้าคนก็ไปฉีดวัคซีนของที่อื่นกันหมด สมมุติถ้าได้ปีหน้ายิ่งไม่ทัน เพราะเดี๋ยวก็มีวัคซีนของรัฐบาลล็อตใหญ่ออกมา นอกจากนี้ยังมีผลต่อราคาด้วย ถ้าเราจ่ายเงินไปแล้ว 100% นำเข้าได้เร็วก็จะได้ราคาหนึ่ง แต่ถ้าเป็นปีหน้าคงไม่ได้ราคานี้ เพราะคงฉีดกันไปเยอะแล้ว”

อย่างไรก็ตาม ถ้าในอนาคตโมเดอร์นายืนยันว่าจะส่งมอบวัคซีนได้ทันภายในปีนี้ บริษัทพร้อมที่จะกลับมานำเข้าอีกครั้ง แต่ถ้าเกินสิ้นปีคงไม่สนใจแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ในตลาดประเมินกันว่าหาก อย. อนุมัติขึ้นทะเบียนวัคซีนของโมเดอร์นาภายในเดือน พ.ค. นี้ อย่างเร็วที่สุดน่าจะนำเข้าวัคซีนได้ในช่วงเดือน ต.ค.

ทั้งนี้ ทางเครือโรงพยาบาลวิภาวดีมีแผนนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นาราว 1 ล้านโดส แบ่งเป็นเฉพาะของโรงพยาบาลวิภาวดีหลักหมื่นโดส คาดการณ์ราคาฉีด 2 โดส ไว้ราว 4-5 พันบาท ซึ่งที่ผ่านมามีหน่วยงานเอกชน เช่น หอการค้าแห่งประเทศไทยและบริษัทเอกชนจำนวนมาก สนใจให้บริษัทร่วมจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดให้กับพนักงานในองค์กร

“ที่ผ่านมามีคนสนใจฉีดวัคซีนกับเรากว่า 1 หมื่นคน แต่ไม่มีข้อผูกมัด ยังไม่ได้จ่ายเงิน แค่สอบถามเฉยๆ ก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วจะฉีดจริงกี่คน ยิ่งโมเดอร์นาตอบไม่ได้ว่าจะส่งมอบเมื่อไหร่ก็ค่อนข้างเสี่ยง ตอนนี้โรงพยาบาลเอกชนที่จะไปต่อก็คงต้องไปลุ้นกันข้างหน้า ส่วนเราก่อนหน้านี้ก็สนใจวัคซีนของไฟเซอร์ด้วย แต่ล่าสุดเห็นว่ารัฐบาลเตรียมจะนำเข้ามา เราก็เลยไม่เอาดีกว่า”

โดย พิจิตต์ อยากเสนอแนะให้รัฐบาลเป็นตัวกลางในการนำเข้าวัคซีนทั้งหมดไปเลย ส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่จะมาร่วมฉีดวัคซีนให้กับประชาชน อยากให้รัฐเพิ่มเงินชดเชยให้กับเอกชนจากปัจจุบันอยู่ที่เข็มละ 20 บาท ซึ่งส่วนตัวมองว่าน้อยเกินไป ไม่คุ้มกับต้นทุนของเอกชน ยิ่งฉีดก็มีแต่ยิ่งเจ็บตัว จึงอยากให้รัฐช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ด้วยการเพิ่มเงินอุดหนุนเป็นหลักร้อยขึ้นไป เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน และจูงใจให้หน่วยงานต่างๆ มาร่วมกันฉีดวัคซีนให้มากขึ้น

ทั้งนี้ จากข่าวยกเลิกการนำเข้าวัคซีนของโมเดอร์นาฉุดราคาหุ้น VIBHA ร่วงสวนกระดาน ปิดที่ 2.16 บาท ลดลง 0.14 บาท หรือ 6.09%