'แอมเนสตี้' เผยบทความ ชี้ 'เรือนจำ' พื้นที่เสี่ยง ระบาดโควิด-19 สูง 4เท่า

'แอมเนสตี้' เผยบทความ ชี้ 'เรือนจำ' พื้นที่เสี่ยง ระบาดโควิด-19 สูง 4เท่า

แอมเนสตี้ ไทยแลนด์ เผยบทความงานวิจัย ชี้ พื้นที่เรือนจำทั่วโลก ถูกจัดเป็นความเสี่ยงระบาดโควิด-19 และทำคนเสียชีวิตสูง 4เท่า เหตุพื้นที่แออัด คุมเรื่องอนามัยยาก

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็ปไซต์แอมเนสตี้ ไทยแลนด์ ได้เผยแพร่บทความ เรื่อง ผู้ถูกลืมเบื้องหลังกรงขัง : โควิด-19 และเรือนจำ ซึ่งเป็นการสำรวจเพื่อเก็บข้อมูลวิจัยโดยแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลใน 69 ประเทศ ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2563 - กุมภาพันธ์ 2564 พบว่าเฉพาะในสหรัฐอเมริกา มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในที่คุมขัง เรือนจำ และสถานกักกันต่าง ๆ สูงถึงกว่า 612,000 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นทั้งผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 2,700 คน

       โดยปัญหาหลักเกิดจากการขาดความสามารถในการจัดบริการตรวจหาเชื้อ และแนวทางการจัดการเรื่องสาธารณสุขที่ไม่ดีพอ ซึ่งในช่วงแรกของการแพร่ระบาด แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่เรือนจำก็ไม่สามารถข้าถึงบริการการตรวจหาเชื้อ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการขาดมาตรการป้องกันและปกป้องคุ้มครองในหลายประเทศ เช่น กัมพูชา ฝรั่งเศส อิหร่าน ปากีสถาน ศรีลังกา ตองโก ตุรกี และสหรัฐอเมริกา

         จากข้อมูลของ UN Office on Drugs and Crime (UNODC) พบว่าในกว่า 100 ประเทศทั่วโลกมีความพยายามปล่อยนักโทษกว่า 600,000 รายในปี 2563 เพื่อลดความแออัดในเรือนจำ ส่วนใหญ่เป็นนักโทษที่มีปัญหาสุขภาพ

         บทความของแอมเนสตี้ ยังระบุในหัวข้อ การติดเชื้อในเรือนจำ ด้วยมีสาระสำคัญ ว่า นักระบาดวิทยาและนักวิทยาศาสตร์ได้บรรยายเรือนจำว่าเป็นศูนย์กลาง ของการแพร่ระบาดไวรัส เนื่องจากความแออัด การขาดสุขอนามัยและระบบการระบายอากาศ ทำให้ไม่สามารถมีการรักษาระยะห่างทางกายภาพ ทำให้เรือนจำเป็นพื้นที่ที่พบอัตราการแพร่ระบาดและเสียชีวิต สูงกว่าพื้นที่ภายนอกที่คุมขังและเรือนจำกว่า 4 เท่าตัว เช่น ประเทศอินเดีย เมื่อเดือนกันยายน 2563 มีรายงานการติดเชื้อใน 351 เรือนจำ จาก 1,350 เรือนจำ หรือหนึ่งส่วนสี่แห่งของเรือนจำใน 25 รัฐทั่วประเทศ, แอฟริกาใต้  เมื่อ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 มีรายงานผู้ติดเชื้อกว่า 10,000 คนในเรือนจำหลายแห่ง กว่า 65% เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลเรือนจำ จนทำให้เรือนจำต้องทำการล็อคดาวน์เต็มรูปแบบ

        ส่วนในยุโรป แม้ว่าจะมีความพยายามลดความแออัดในเรือนจำตั้งแต่การเริ่มระบาดของโควิด-19 แต่ในวันที่ 15 กันยายน 2563 ใน 38 เรือนจำที่มีการรายงานข้อมูล พบผู้ต้องขังไม่น้อยกว่า 3,300 คนและเจ้าหน้าที่เรือนจำ 5,100 คนติดเชื้อโควิด-19 จำนวนนี้ได้เพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล ในวันที่ 31 มกราคม 2564 ผู้ต้องขังและเด็กติดเชื้อจำนวน 19,354 คนในเรือนจำและสถานกักกันเยาวชน 126 แห่ง ในอังกฤษและเวลส์ และมีเจ้าหน้าที่ 12,184 คนติดเชื้อตั้งแต่การเริ่มแพร่ระบาดในช่วงแรก

      ทั้งนี้ แอมเนสตี้ไทยแลนด์ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หลังมีข่าวว่า นาอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ติดโควิดในเรือนจำ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในที่คุมขัง เรือนจำ และสถานกักกันต่าง ๆ ทั่วโลก  และมีผู้เสียชีวิต  ได้แก่  สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อ สูงถึงกว่า 612,000 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นทั้งผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 2,700 คน


         อินเดียมีผู้ติดเชื้อใน 351 เรือนจำ จาก 1,350 เรือนจำ หรือหนึ่งส่วนสี่แห่งของเรือนจำใน 25 รัฐทั่วประเทศ

        ปากีสถานมีผู้ติดชื้อไม่น้อยกว่า 2,313 ราย

         เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อ 1,041 คน ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด

         แอฟริกาใต้ มีผู้ติดเชื้อกว่า 10,000 คนในเรือนจำหลายแห่ง กว่า 65% เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลเรือนจำ จนทำให้เรือนจำต้องทำการล็อคดาวน์เต็มรูปแบบ

         ยุโรป มีผู้ต้องขังและเด็กติดเชื้อจำนวน 19,354 คนในเรือนจำและสถานกักกันเยาวชน 126 แห่ง

         อังกฤษและเวลส์ และมีเจ้าหน้าที่ 12,184 คนติดเชื้อตั้งแต่การเริ่มแพร่ระบาดในช่วงแรก