'รัฐบาล'ยัน'ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว'พื้นที่ 'กทม.'เป็นมาตรการสุดท้ายหากคุม 'โควิด'ไม่อยู่

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะในฐานะรองผอ.ศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์ COVID-19 ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล เปิดเผยถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดในพื้นที่กทม. โดยเฉพาะเขตคลองเตย ว่า มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อบูรณาการแก้ปัญหาโควิดในกทม. มีการประชุมวางโครงสร้างระดับเขต แบ่งเป็นด้านต่างๆ เพื่อให้การทำงานประสานสอดคล้องอย่างสมบูรณ์ จำเป็นต้องให้ทั้ง 50 เขตในกทม. สามารถดำเนินมาตรการป้องกันได้ด้วยตนเอง ซึ่งเริ่มมาแล้ว 2 วัน

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตามมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด ที่จะครบกำหนดในอีก 7 วันข้างหน้า หากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังอยู่ในระดับมีเป็นอยู่ในปัจจุบัน จะมีมาตรการอย่างไรต่อไปนั้นการจะกำหนดมาตรการใดๆ จะต้องรับฟังข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีการวิเคราะห์สาเหตุของการแพร่ระบาดว่าเกิดจากอะไร โดยการระบาดในระลอกที่3 ซึ่งเกิดจากสถานบันเทิงเมื่อมีการออกมาตรการควบคุมป้องกันซึ่งจะใกล้ครบกำหนด 14 วันนั้นจึงต้องประเมินว่าอะไรเป็นสาเหตุของการแพร่ระบาดก็ต้องป้องกันที่สาเหตุนั้น ส่วนจะถึงขั้นล็อคดาวน์หรือประกาศเคอร์ฟิวหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงอย่างมากถึงความเดือดร้อนของประชาชน จึงให้ศบค. พิจารณาอย่างรอบคอบพยายามให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ทั้งนี้ มาตรการล็อคดาวน์และเคอร์ฟิว จะเป็นมาตรการสุดท้ายถ้าไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดได้จริง แต่เบื้องต้นในขณะนี้ ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการดังกล่าว

พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนว่ามีหัวคะแนนบางคนในพื้นที่คลองเตยแจกบัตรคิวให้เฉพาะประชาชนบางกลุ่ม ให้ได้สิทธิ์ตรวจหาเชื้อและฉีดวัคซีนนั้น ได้มีการสอบถามไปยังหน่วยงานในพื้นที่พบว่าไม่เป็นเช่นนั้น แต่ก็ได้เน้นย้ำให้มีการเพ่งเล็งเรื่องนี้เป็นพิเศษไม่ให้เกิดปัญหา ถ้าในอนาคตมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอาจให้ฝ่ายความมั่นคงไปดำเนินการ