พิษเศรษฐกิจยุคโควิดระบาด 2 ตายายผูกคอลาโลก หมุนเงินหนี้นอกระบบไม่ทัน

พิษเศรษฐกิจยุคโควิดระบาด 2 ตายายผูกคอลาโลก หมุนเงินหนี้นอกระบบไม่ทัน

โควิดระบาดกระทบเศรษฐกิจ คู่ชีวิต 2 ตายาย ผูกคอลาโลก หมุนเงินไม่ทันมีปัญหาหนี้นอกระบบ คาดไม่เหลือเงินต่อลมหายใจ วัดไผ่ล้อมพร้อมอนุเคราะห์ สวดเผาฟรีให้ทันที

สองตายาย ถูกพบเป็นศพผูกคอตายคู่ในห้องเช่า พบมือคุณยายังเกาะบ่าสามี โดยเจ้าหน้าที่พบจดหมายลาตาย บ่นท้อแท้ทรมานกับชีวิต ขณะญาติให้ข้อมูลทั้งคู่ขยันมากแต่สู้พิษเศรษฐกิจยุคโควิดระบาดละรอก 3 ไม่ไหว หลังเพิ่งถูกยึดรถและไปกู้เงินนอกระบบ มาไม่นาน คาดไม่เหลือเงินต่อลมหายใจ วัดไผ่ล้อมพร้อมอนุเคราะห์ สวดเผาฟรีให้ทันที

ค่ำวานนี้ 4 พฤษภาคม 2564 เวลา 20.40 น. พ.ต.อ.ไสว แช่มลำเจียก ผกก.สภ.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม รับแจ้งว่ามีผู้ผูกคอตาย 2 ศพภายในห้องเช่า หลังศาลเข้าแปะกง หมู่ที่ 1 ต.ธรรมศาลา อ.เมืองนครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม


ในที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวชั้นเดียว ซึ่งมีหลายห้องติดกัน โดยช่วงห้องที่อยู่กลางอาคาร เจ้าหน้าที่พบว่าที่ห้องเปิดไฟไว้แต่เมื่อส่องมองผ่านกระจกเข้าไปก็ต้องพบภาพสลด เมื่อพบร่างของชายหญิงสูงวัยได้ผูกคอเสียชีวิตอยู่ที่ห้องน้ำท้ายห้อง ซึ่งต้องมีการเตรียมตัวในการสวมชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป เพื่อตรวจสอบ โดยพบว่า เป็นผู้ที่เช่าห้องดังกล่าว ได้ผูกคอตายโดยใช้เชือกผูกกับชื่อหน้าห้องน้ำและห้อยตัวลงมาคู่กัน โดยที่มือฝ่าหญิงยังกอดพากไปที่บ่าของฝ่ายชาย เป็นภาพที่ทำให้ชาวบ้านต่างหดหู่ใจ

จากการตรวจสอบ ทราบชื่อฝ่ายชายชื่อนายธนนรักษ์ พิทยสีห์นาค อายุ 62 ปี และ นางสรินทร์ดา ทิพยสีห์นาค อายุ 64 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 11/99 ม.10 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทั้งคู่เป็นพ่อค้าแม่ค้าที่มาเช่าห้องแถวดังกล่าวอาศัย โดยจากการตรวจสอบภายในห้อง

พบว่ามีการเขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้ระบุ ข้อความว่า “ 4 พ.ค. 64 วันนี้เป็นวันสุดท้าย ที่เราจะอยู่บนโลกใบนี้ อยู่ต่อไปก็ทรมานเหลือเกิน เราขออโหสิกรรม ทุกๆคนด้วย ลาก่อน จาก ต้อยผู้อาภัพ” และยังพบกระดาษที่มีการเขียนไว้อีก 1 แผ่น มีข้อความ “ผมขอลาก่อนขอให้ทุกคนโชคดี ธนนรักษ์ ทิพย์สีห์นาค” ซึ่งมีการเขียนต่างๆเอาไว้คาดว่าเป็นเลขสำหรับคนที่ชอบเสี่ยงโชค โดยมีการเขียนทั้ง ล่างและบน เอาไว้หลายตัวเลข เช่น บ ให้ญาติ 14 15 24 25 มีการลับเลข และ ล ที่มีเลขอีก 4 ชุด ประกอบด้วยเลข 37 และ 38 เอาไว้ โดยไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือมีกระป๋องยาพิษ ซึ่งได้ส่งศพไปผ่าชันสูตรต่อไป

โดยในที่เกิดเหตุ มีบุตรชาย บวชอยู่ที่วัดธรรมศาลา ใกล้กับบ้านเช่า ได้เข้ามาดูศพบิดามารดา โดยอยู่ในความตกใจ สอบถามไปยังญาติ ทราบว่า ทั้งคู่นั้นเป็นสามีภรรยา ที่มีญาติอยู่ในจังหวัดนครปฐม โดยได้อาศัยการค้าขายทั่วไปเพื่อประทังชีวิต ซึ่งมีความขยันขัแข็งและต่อสู้ชีวิตทั้งคู่ แต่เมื่อเกิดสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งระรอกแรกก็ทำให้รายได้ลดลง แต่ยังคงต่อสู้ไปหยิบยืมเงินญาติมาต่อทุนเพื่อสู้ในวิกฤติการระบาดรอบ 2

กระทั่งสภาวะการเงินเริ่มย้ำแย่หนักในการระบาดรอบที่ 3 โดยได้ไปกู้เงินนอกระบบมาค้าขายสลับกับไปยืมญาติพีน้องมาทำทุนต่อแต่รอบนี้ไม่ไหว เพราะรถเพิ่งถูกยึดไปไม่กี่วันและถูกกดดันจากการกู้เงินนอกระบบ คาดว่าทั้งคู่เห็นว่าหมดทางต่อสู้ชีวิตจึงเขียนจดหมายลาและตัดสินใจผูกคอตายในวันนี้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการประสานขอสอบถามข้อมูลจากญาติว่าผู้ตายมีความขัดแย้งกับใครหรือไม่ ก็พบว่าเป็นคนอัธยาศัยดีไม่มีปัญหากับใคร ซึ่งโรคประจำตัวก็ไม่มี และไม่นานมานี้เพิ่งไปยืมเงินญาติพ่วงด้วยการกู้เงินมา คาดว่าน่าจะไม่สามารถหารายได้แล้ว จึงได้ตัดสินใจด้วยความเครียด แต่สาเหตุที่แน่ชัดจะมีการสอบถามญาติอีกครั้งรวมถึงรอผลการผ่าชันสูตรพลิกศพอีกครั้งเพื่อความชัดเจนต่อไป


ขณะเดียวกัน พระครูปลัดสิทธิวัฒน หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมได้ทรายข่าว จึงได้ประสานแจ้งมาว่า ทราบว่าศพชายหญิงสูงวัยทั้งคู่นั้นไม่มีเงินติดตัวแล้ว จึงได้แสดงเจตนาว่า หากญาติไม่พร้อมทางด้านการเงินทางวัดไผ่ล้อมก็จะรับอนุเคราะห์สวดเผาฟรี เพื่อช่วยเหลือต่อไป