'กลาโหม'ย้ำทุกเหล่าทัพคุมเข้มชายแดนป้องกัน'โควิด'จากการลักลอบเข้าเมือง

'กลาโหม'ย้ำทุกเหล่าทัพคุมเข้มชายแดนป้องกัน'โควิด'จากการลักลอบเข้าเมือง

"กลาโหม" ย้ำ ทุกเหล่าทัพ คุมเข้มแนวชายแดน รอบประเทศ ป้องกัน "โควิด" จากการลักลอบเข้าเมือง "นายกฯ" ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท "ชัยชาญ" สั่งประเมินสถานการณ์สู้รบใน "เมียนมา"

พล..คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) เปิดเผยว่า พล..ชัยชาญ ช้างมงคลรมช.กลาโหมได้ย้ำกับทุกเหล่าทัพ ปฏิบัติตามนโยบายของพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในการกำกับการปฏิบัติงานของกองกำลังป้องกันชายแดนให้เป็นที่เชื่อมั่นในการสนับสนุนการควบคุมโรค COVID-19 ตามแนวชายแดนให้ได้เด็ดขาด  โดยให้ติดตามสถานการณ์ชายแดนกัมพูชา เมียนมาและมาเลเซียอย่างใกล้ชิด   รวมทั้งสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและเข้มมาตรการควบคุมโรคที่กำหนดอย่างต่อเนื่องจริงจัง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนใต้ที่ต้องเฝ้าระวังสูง กับความเสี่ยงของ COVID-19 สายพันธ์ุที่กำลังแพร่ระบาดในมาเลเซีย ที่อาจเข้ามาพร้อมกับผู้ที่เดินทางกลับจากมาเลเซีย ซึ่งอาจสร้างปัญหาและจำเป็นต้องคัดกรองอย่างเข้มข้น โดยนายกฯ ยังได้แสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ทุกนาย ขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทและมีความปลอดภัยทั่วกัน

นอกจากนี้ พล..ชัยชาญยังได้กำชับ ถึงการทำงานในพื้นที่แนวชายแดนไทย - เมียนมา  ขอให้ติดตามและประเมินสถานการณ์ความรุนแรงจากสู้รบด้วยกำลังทหาร ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนไทยในพื้นที่  โดยขอให้ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดไว้โดยเร็ว ขณะเดียวกัน หากมีผู้หลบหนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมาหรือชนกลุ่มน้อยชาวกระเหรี่ยงตามแนวชายแดนที่อพยพข้ามแดนเข้ามา จากผลกระทบความรุนแรงการสู้รบ ขอให้ดำเนินการช่วยเหลือขั้นต้นตามหลักมนุษยธรรมและคุมเข้มคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรคที่กำหนด  โดยประสานการทำงานกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

โฆษกกลาโหม กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมากอลกำลังป้องกันชายแดนทางบกในพื้นที่ทัพภาค3 และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ให้การช่วยเหลืออพยพประชาชนที่อาจได้รับอันตรายจากการสู้รบในพื้นที่ชายแดน .แม่สามแลบ และ .ท่าตาฝั่ง จว.แม่ฮ่องสอน กว่า 600 คน ออกมายังพื้นที่ปลอดภัยที่กำหนดเป็นการชั่วคราวและได้เดินทางกลับภูมิลำเนาแล้วหลังสถานการณ์สงบ พร้อมกันนี้ ได้ให้การช่วยเหลือดูแลตามหลักมนุษยธรรมแก่ผู้หลบหนีภัยจากความไม่สงบชาวเมียนมา จำนวน 2,318 คน ที่อพยพข้ามแดนมายังฝั่งไทย บริเวณ .แม่ยวม .แม่สะเรียง และพื้นที่ใกล้เคียงของ .แม่ฮ่องสอน โดยจัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวรองรับ จำนวน 4 แห่งทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือ ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเป็นพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานและอยู่ในมาตรการควบคุมโรคเข้มข้นตามที่จังหวัดกำหนด เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในภาพรวม