โคราช ของดออกจากบ้าน 23.00-04.00 น. - เอาผิด ชาวยูกานดาปกปิดไทม์ไลน์

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 64 ที่ห้องประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ พร้อมแถลงถึงสถานการณ์ถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยยอดผู้ป่วยล่าสุด พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม จำนวน 23 ราย พบในพื้นที่ อ.เมือง 15 ราย อ.โนนสูง 3 ราย อ.ปากช่อง 2 ราย อ.โนนไทย 1 ราย อ.บ้านเหลื่อม 1 ราย อ.ปักธงชัย 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 654 ราย รักษาหาย 230 ราย ยังรักษา 423 ราย เสียชีวิต 1 ราย พบการระบาดในพื้นที่ 28 อำเภอ จากทั้งหมด 32 อำเภอ สำหรับการตรวจหาเชื้อด้วยรถนิรภัยพระราชทาน ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2564-2 พฤษภาคม 2564 เป็นระยะเวลา 10 วัน สามารถตรวจหาเชื้อจากประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้จำนวน 13,185 ราย พบผู้ติดเชื้อ จำนวน 38 ราย

นพ.นรินทร์รัชต์ กล่าวว่า ทางคณะกรรมการโรคติดต่อมีมติออกประกาศคำสั่งขอความมือให้ประชาชนในพื้นที่ งด หรือชะลอ การออกจากเคหะสถาน งดการเดินทาง ในช่วงระเวลาตั้งแต่ 23.00 น ถึง เวลา 04.00 โดยมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2564 เป็นการลดการเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 สำหรับการแพร่ระบาดขณะนี้ยังคงที่ มาตรการทุกอย่างต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ส่วนการดำเนินคดีกับบุคคลที่ปกปิดไทม์ไลด์ โดยเฉพาะชาวยูกานดาและภรรยา ที่ อ.เสิงสาง นั้น ได้ให้นิติกรทำเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษทุกรายแล้ว ส่วนพื้นที่ที่ยังคงต้องเฝ้าระวัง ยังเป็นพื้นที่ อ.ปากช่อง อ.บัวใหญ่ อ.สีคิ้ว และ อ.วังน้ำเขียว ส่วนการจะประกาศเคอร์ฟิวส์ในพื้นที่หรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินการ เพียงแต่ขอความร่วมมือน้องประชาชนให้งดเดินทาง หรืออกจากบ้านช่วงเวลา 23.00-04.00 น เท่านั้น จะต้องประเมินสถานการณ์อีกประมาณ 1 สัปดาห์ แต่เชื่อว่า หลังจากนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น

ในขณะที่ เฟสบุ๊กของ นายสานิตย์ ศรีทวี นายอำเภอเสิงสาง ได้โพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับบุคคลที่ปกปิดไทม์ไลด์ว่า “เรียนพี่น้องประชาชนที่จะเดินทางมาในพื้นที่อำเภอเสิงสาง ห้ามปกปิดข้อมูลซึ่งจะต้องอำนวยความสะดวกในการควบคุมโรคติดต่อโควิด-19 ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 55 ซึ่งในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่ออำเภอเสิงสาง และเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามมาตรา 47 จะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานกับผู้ที่ปกปิดข้อมูล เนื่องจากทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย เช่น ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ถูกกักตัวหรือประชาชนถูกกักตัว หรือติดเชื้อ เป็นต้นตาม ป.อาญา มาตรา 137 ประกอบมาตรา 55 พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ เคสแรกที่จะดำเนินการคือเคสหญิงโนนสมบูรณ์ มีสามีเป็นชาวยูกานดา โดยจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ในวันนี้ เป็นกรณีตัวอย่างเนื่องจากทำให้บุคลากรทางการแพทย์ถูกกักตัวถึง 2 ราย”