เปิดคำชี้แจง 'ราชทัณฑ์' ส่งตัว 'เพนกวิน' รักษาในโรงพยาบาล

เปิดคำชี้แจง 'ราชทัณฑ์' ส่งตัว 'เพนกวิน' รักษาในโรงพยาบาล

เปิดคำชี้แจง "ราชทัณฑ์" ส่งตัว "เพนกวิน" รักษาในโรงพยาบาลรามาธิบดี

วันที่ 1 .. ผู้สื่อข่าวรายานว่า จากกรณีกรมราชทัณฑ์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ กรณีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ "เพนกวิน" ผู้ต้องขังคดี112 ได้ถูกนำตัวออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีนั้น ล่าสุดกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (30 เมษายน 2564) เวลาประมาณ 07.30 . เจ้าหน้าที่พยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้เข้าตรวจอาการประจำวันของนายพริษฐ์ พบว่าอาการทั่วไปปกติ มีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่เริ่มดื่มน้ำเกลือแร่ได้น้อยลง และมีอาการปวดบริเวณที่ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ จึงต้องถอดสายน้ำเกลือออก และได้ประสานแพทย์และพยาบาลจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อเข้าตรวจอาการเพิ่มเติม พบว่านายพริษฐ์ รู้สึกอ่อนเพลียและเรี่ยวแรงลดลงริมฝีปากแห้งเล็กน้อย มีอาการปวดแสบท้องเป็นบางครั้ง และเจ้าตัวได้ให้ข้อมูลกับแพทย์ที่เข้าตรวจว่ามีลักษณะของอุจจาระที่ผิดปกติเหมือนมีเลือดปน จำนวน 1 ครั้งเมื่อ 4 วันก่อน

หลังจากนั้นยังไม่ได้ถ่ายอุจจาระอีก โดยเจ้าตัวได้ปฏิเสธการตรวจทางทวารหนักเพิ่มเติม ซึ่งทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จึงยังไม่มีการตรวจและยืนยันว่า ยังไม่พบว่ามีการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดแต่อย่างใด

แพทย์ที่เข้าทำการตรวจรักษา จึงได้ให้การวินิจฉัยเบื้องต้นว่า ภาวะอ่อนเพลียและเรี่ยวแรงลดลงของนายพริษฐ์ เกิดจากการอดอาหารเป็นเวลานาน และอาการปวดท้องร่วมกับข้อมูลที่แจ้งเกี่ยวกับการถ่ายอุจจาระผิดปกติอาจเกิดจากกระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งแพทย์ได้ให้การรักษาเบื้องต้น โดยให้น้ำเกลือแร่ชนิดรับประทาน เนื่องจากนายพริษฐ์ ปฏิเสธที่จะเปิดเส้นเลือดให้น้ำเกลือ รวมทั้งให้ยาเคลือบกระเพาะ รวมทั้งยาลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารเพื่อบรรเทาอาการ และแพทย์ได้ให้ความเห็นว่า ควรส่งตัวนายพริษฐ์เข้าตรวจรักษาต่อในโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อพิจารณาให้สารอาหาร และวิตามินทางเส้นเลือดดำ และตรวจวินิจฉัยทางเดินอาหารเพิ่มเติมให้ได้ผลการวินิจฉัยสุดท้าย ให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องขังมากที่สุด

กรมราชทัณฑ์ โดยทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จึงได้ดำเนินการส่งตัวนายพริษฐ์ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ตามที่ได้มีการชี้แจงไปแล้วดังกล่าว จึงอยากให้ญาติ และสังคมคลายความกังวลต่ออาการป่วยของนายพริษฐ์ ว่าเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยที่อดอาหาร หรือไม่ได้รับประทานอาหารเป็นเวลานาน และเป็นการส่งต่อการรักษาเพื่อตรวจอาการโดยละเอียด ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าของอาการนายพริษฐ์เพิ่มเติม กรมราชทัณฑ์จะนำเสนอให้สังคมได้รับทราบต่อไป