จัดเต็ม! 'แก๊งอรหันต์ลวงโลก' หายซ่า เจอหมายจับยาวเป็นหางว่าว ผู้เสียหายแห่แจ้งตร.

จัดเต็ม! 'แก๊งอรหันต์ลวงโลก' หายซ่า เจอหมายจับยาวเป็นหางว่าว ผู้เสียหายแห่แจ้งตร.

จัดการเต็มเหนี่ยว! "แก๊งอรหันต์ลวงโลก" หายซ่า เจอหมายจับยาวเป็นหางว่าว ผู้เสียหายแห่แจ้งความแตะ 500 ราย ยอดตุ๋นเงินทะลุ 25 ล้านบาท

ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี "แก๊งอรหันต์ลวงโลก" จากเหตุนางสาวอิสรีย์ อินทร์ไชยา อายุ 49 ปีหรืออู๋ อวดอุตริอ้างเป็นพระยาธรรมมิกราช ตั้งตนเป็นภิกษุณีเจ้าสำนักสถานปฏิบัติธรรมวิปัสสนา พระพุทธสิกขี ตั้งอยู่เลขที่ 210 หมู่ 1 บ้านดงโชค ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม

โดยตำรวจได้นำหมายศาลจังหวัดนครพนม เข้าจับกุมฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา พร้อมขยายผลจับกุมสาวกที่โกนหัวแต่งกายคล้ายแม่ชี ทำหน้าที่นายหน้าหาลูกค้าซื้อกองทุนผ้าป่าแบบคืนกำไรคล้ายแชร์ลูกโซ่อีก 5 ราย

ประกอบด้วย 1.นางดรุณี อายุ 45 ปี หรือแม่ชีทองพูนหรือพี่พอลลี่ 2.นางสาวไพลิน อายุ 31 ปี หรือแม่ชีการ์ตูนหรือน้องน้ำตาล 3.นางสาวมะลิวัลย์ อายุ 28 ปี หรือแม่ชีกาเต้ และ 4.นางกิติยา อายุ 46 ปี อาชีพเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอปลาปาก จ.นครพนม รวม 5 คน

ก่อนหน้าที่ตำรวจจะเข้าทลายแก๊งแม่ชีลวงโลกนี้ วันที่ 20 เมษายน 2564 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม กล่าวหาว่านางสาวอิสรีย์พร้อมสาวกร่วมกันหลอกลวงให้ลงทุนสะสมบุญในรูปแบบผ้าป่าเงินสดและผ้าป่าทองคำ ทำให้มีคนหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ในพื้นที่ ต.กุตาไก้ มีนางเพลิน (นามสมมติ) คนในพื้นที่เป็นนายหน้าเข้าไปหาเหยื่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนางเพลินมาสอบสวนปากคำ พร้อมเปิดปากซัดทอดถึงขบวนการดังกล่าวว่ามีใครบ้าง จึงเป็นที่มาของการขอหมายจับแก๊งอรหันต์ลวงโลกในที่สุด โดยนางเพลินให้การเป็นประโยชน์เจ้าหน้าที่จึงไม่คัดค้านการประกันตัว

ล่าสุด วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า การสอบสวนคืบหน้าไปมาก ตอนนี้ได้ขอ Statement จากธนาคาร เพื่อตรวจสอบการเดินบัญชีของผู้ต้องหาว่ามีการโยกย้ายถ่ายเทไปให้ใครบ้าง

ส่วนหนึ่งผู้เสียหายนำเงินสดมอบให้กลุ่มสาวก อาทิ แม่ชีทองพูนหรือแม่ชีการ์ตูน บางรายก็โอนเข้าบัญชีของเจ้าสำนัก ในตู้เซฟที่ยึดมาจากอาศรมของเจ้าสำนัก ภายในพบเงินสด 4 หมื่นบาทกับโฉนดที่ดิน 3 ฉบับ และสมุดบัญชีธนาคาร

ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวถึงการขอหมายจับผู้ร่วมขบวนการเพิ่มประมาณ 3 รายนั้น ว่า เป็นการกล่าวหาของผู้เสียหายที่ไปแจ้งความแต่ละสถานีตำรวจ ได้แก่ 1.สภ.กุตาไก้ 2.สภ.ปลาปาก และ 3.สภ.ท่าอุเทน โดยให้การเชื่อมโยงระหว่างนางสาวอิสรีย์กับแม่ชีทองพูนและแม่ชีการ์ตูนรวม 3 คน ซึ่งอาจจะขอหมายจับผู้ต้องหาทั้งสามเพิ่มอีกหลายสำนวน

ในขณะนี้ศาลท่านไม่อนุญาตให้ผู้ต้องหาประกันตัว ก็คงไม่ต้องขอหมายจับ เพียงสรุปสำนวนยื่นขออายัดตัวไว้สอบสวนข้อเท็จจริง เท่าที่ผู้เสียหายให้รายละเอียดมีตัวละครอยู่ประมาณนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนขณะนี้จำนวน 490 ราย มูลค่าความเสียหายราว 25 ล้านบาท

ผู้เสียหายชื่อนางคำพา (นามสมมติ) ชาวบ้าน ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า มีแม่ชีทองพูนเข้ามาชักชวนซื้อผ้าป่าทองคำกองละ 3,000 บาท จึงลงทุนซื้อจำนวน 1 กอง ปรากฏว่าก็ได้ผลตอบแทนเป็นทองคำหนัก 1 สลึงจริง จึงเกิดความโลภลงทุนซื้อเพิ่มรวม 4 กองเป็นเงิน 12,000 บาท คราวนี้ไม่ได้รับทองคำเหมือนครั้งแรก

สอบถามก็อ้างว่าเจ้าสำนักกำลังวิปัสสนากรรมฐานแผ่บุญให้ชาวบ้านอยู่ เลยชักชวนเพื่อนบ้านไปสำนักดังกล่าว เป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาจับกุมตัวแม่ชีทองพูนพอดี จึงรู้ว่าถูกหลอกและได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าอุเทน รวมผู้เสียหายในหมู่บ้านตนประมาณ 30 ราย เมื่อถามว่าหวังจะได้เงินคืนไหมนางคำพาตอบคงยากเพราะผู้เสียหายเยอะขนาดนี้เจ้าสำนักจะเอาเงินที่ไหนมาให้