พอสเทล : เทรนด์ใหม่  ธุรกิจโรงแรมยุค 4.0

Poshtel มาจากคำว่า Posh ที่แปลว่า มีระดับ บวกกับคำว่า Hotel ที่แปลว่า โรงแรม รวมกันจึง กลายเป็นคำว่า Poshtel

Poshtel มาจากคำว่า Posh ที่แปลว่า มีระดับ บวกกับคำว่า Hotel ที่แปลว่า โรงแรม รวมกันจึง กลายเป็นคำว่า Poshtel มีต้นกำเนิดมาจากโซนฝั่งยุโรปแล้วแพร่หลายไปยังเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลก ทั้ง ทวีปยุโรป อเมริกา และแถบสแกนดิเนเวีย

 ในประเทศไทย ก็เริ่มมีเข้ามาตามเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ บ้างแล้ว เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น คอนเซ็ปต์ของ พอสเทล เป็นโรงแรมที่มีการตกแต่งสถานที่ให้ดูหรูหราผสมผสาน กับการบริการที่ เรียบง่ายสไตล์บูติก และมีบรรยากาศความเป็นกันเอง แต่กลับใช้จุดขาย ด้วยกลยุทธ์ด้านราคาแบบจ่ายได้สบายกระเป๋าเช่นเดียวกับ โรงแรมโฮสเทล (Hostel) ซึ่งเป็นที่พักแบบประหยัด เป็นที่นิยมสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ในปัจจุบัน ที่พักประเภทนี้ มีรูปแบบคล้ายๆ กับหอพัก เป็นเตียงสองชั้น หลายๆเตียง ทางเดินแคบๆ มี ตู้ล็อคเกอร์ไว้ให้ใส่สัมภาระส่วนตัว ซึ่งมีจำนวนเท่ากับเตียงนอน และส่วนใหญ่เป็นห้องน้ำรวม สิ่งอำนวยความ สะดวกหรือพื้นที่ส่วนกลางสำหรับพักผ่อนก็ใช้ร่วมกันกับผู้อื่น เช่น ห้องดูทีวีห้องอ่านหนังสือ มุมอินเตอร์เน็ต ซึ่งถูกใจคนชอบเที่ยวรูปแบบเรียบง่าย บรรยากาศสบายๆ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ต่างถิ่น ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม แถมยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางกันด้วย ราคาที่พักก็ไม่แพง แถมยังมีอาหารเช้าให้ก่อนออกไป ท่องเที่ยวทั้งวันแล้ว ค่อยกลับมานอน จึงทำให้โรงแรมโฮสเทล สามารถครองใจผู้บริโภคกลุ่มแบคแพ็คในช่วง ระยะเวลาหนึ่ง 

ต่อมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เทรนด์การท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ได้แตกแขนงต่อยอดออกมาจากสไตล์เดิม อันเนื่องมาจากอิทธิพลของเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยอินเตอร์เน็ตที่สามารถหาข้อมูลเพื่อการ ท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดาย กระแสของผู้คนที่นิยมท่องเที่ยวและถ่ายรูปเพื่อโพสต์ลงในเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม และสื่อออนไลน์ รวมไปถึงการคมนาคมในยุคปัจจุบันที่สะดวกสบายมากขึ้น การเดินทางมีให้เลือกหลากหลาย เส้นทาง มีสายการบินราคาประหยัดให้เลือกเดินทาง 

ทำให้นักท่องเที่ยวกลุ่มแบ็คแพ็คเกอร์เพิ่มจำนวนมากขึ้น และไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงกลุ่มวัยรุ่น เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อลูกค้ากลุ่มอื่น ได้แก่ กลุ่มวัยทำงาน คู่รัก กลุ่มคุณพ่อคุณแม่ ที่ต้องการเที่ยวกับลูกหลาน และกลุ่มวัยเกษียณ เป็นต้น ซึ่งลูกค้าดังกล่าวนี้มีกำลังจ่ายสูง ต้องการ พื้นที่ส่วนตัว และรักความสะดวกสบาย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจโรงแรม พอสเทล ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อตอบ โจทย์ความต้องการสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ 

โดยสรุป “พอสเทล” เป็นเทรนด์ใหม่ของธุรกิจโรงแรมที่กำลังเป็นที่นิยม เป็นนวัตกรรมบริการที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ตกแต่งสถานที่ให้ดูหรูหราผสมผสาน กับจุดเด่นของวัฒนธรรมท้องถิ่น ร่วมกับการให้บริการที่เรียบง่ายสไตล์บูติก แต่ใช้กลยุทธ์ด้านราคาแบบจ่ายได้สบายกระเป๋า สร้างความนิยมให้กับผู้บริโภค ในยุค 4.0 อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมจึงควรตระหนักถึงความจำเป็นในการพัฒนากลยุทธ์ ทางการตลาด และสร้างสรรค์รูปแบบบริการใหม่ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง รวมไปถึงการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ ให้กับผู้บริโภค นับเป็นโอกาสอันดี สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมในการนำแนวคิดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาดไปประยุกต์ใช้ควบคู่กับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นเพื่อขยายขีดความสามารถ ในการแข่งขันตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคไทยแลนด์ 4.0